พายุ "ตาลัส" ถล่มกาฬสินธุ์ นาข้าวเสียหายกว่า 200 ไร่ ไร้วี่แววหน่วยงานภาครัฐในการช่วยเหลือ
จากสภาพอากาศในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งตลอดทั้งสัปดาห์ได้รับผลกระทบจากพายุตาลัส ทำให้มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ติดต่อกันนานหลายวัน ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเขื่อนลำปาว และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 18 แห่ง ตลอดจนแหล่งกักเก็บน้ำธรรมชาติต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาวอยู่ที่ 1,076 ล้าน ลบ.ม.จากความจุ 1,980 ล้าน ลบ.ม.หรือ 54 %โดยล่าสุดมีปริมาณน้ำไหลเข้า 52 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ในช่วง 3 วันที่ผ่านมามีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนกว่า 160 ล้านลบ.ม. โดยในวันนี้ทางเขื่อนได้ระบายน้ำ10.90 ล้านลบ.ม.
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ฝนที่ตกติดต่อกันหลายวันยังคงส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำห้วยธรรมชาติต่างๆเอ่อเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านในหลายพื้นที่ โดยพื้นที่ บ้านหนองห้าง ม.4 ต.โนนนาจาน บ้านกุดตาใกล้ ต.สายนาวัง บ้านส้มป่อย และบ้านกุดกอก สระพังทอง อ.นาคู และบ้านโพนสวาง ต.กุดสิมคุ้มใหม่ อ.เขาวง ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำจากลำห้วยยาง ที่ไหลลงมาจากเทือกเขาภูพานมาสมทบกับแม่น้ำลำพะยังที่ไหลมาจากอ่างกักเก็บน้ำลำพะยะตอนบน อ.เภอเขาวงและมาบรรจบกับลำห้วยฮองต้อน อ.นาคู ส่งผลให้น้ำเอ่อเข้าท่วมนาข้าวของเกษตรกรแล้วกว่า 200 ไร่ และมีระดับน้ำท่วมขังสูง 1- 2 เมตร ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นอีก 20 ซม.และขยายวงกว้างเพิ่มขึ้น เนื่องจากฝนตกตลอดทั้งคืน จนทำให้ต้นข้าวของเกษตรกรจมน้ำนานเข้าสู่วันที่ 5 ซึ่งเริ่มเน่าเปื่อยเสียหายแล้ว แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้การช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบกับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าปริมาณน้ำในห้วยธรรมชาติต่างๆยังเอ่อเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรใน อ.ห้วยผึ้ง บริเวณสองข้างทางถนนสายห้วยผึ้ง-นาคู อีกหลายสิบไร่อีกด้วย
ด้านนายสอน พิมเภา อายุ 56 ปี เกษตรกรบ้านหนองห้าง ม.4 ต.โนนนาจาน อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรกรในพื้นบ้านหนองห้าง และพื้นที่ใกล้เคียงกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากฝนตกติดต่อกันนานหลายวัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำจากห้วยต่างๆเอ่อเข้าท่วมนาข้าวที่หว่านไว้และต้นข้าวที่ปักดำอย่างน้อย 200 ไร่แล้ว โดยเฉพาะนาข้าวของตนจำนวน 15 ไร่ จมน้ำมานานกว่า 5 วันแล้ว และล่าสุดระดับน้ำก็เพิ่มสูงขึ้นอีก 20 ซม.น้ำให้มีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1-2 เมตร ต้นข้าวของเกษตรกรส่วนใหญ่เริ่มเน่าเปื่อยเสียหายแล้ว คาดว่าหากระดับน้ำยังไม่ลดลงและสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต้นข้าวของชาวบ้านน่าจะเสียหายทั้งหมด คงไม่มีผลิตข้าวไปขายเพื่อมาใช้หนี้สินที่กู้ยืมมาลงทุนทำนา จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาให้การช่วยเหลือ เพราะที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้การช่วยเหลือเกษตรกรที่กำลังเดือดร้อนเลยแม้แต่หน่วยงานเดียว