‘ออลโคโค’ มะพร้าวน้ำหอมยุค 4.0

หลากหลายผลผลิตจากการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับมะพร้าวน้ำหอม ไม่ว่าจะเป็น มะพร้าวผลสด น้ำมะพร้าวบรรจุขวด มะพร้าวน้ำหอมเกล็ดหิมะ พุดดิ้ง ซอฟต์ไอศกรีม สโนว์บอลและน้ำมันมะพร้าว กำลังจะก้าวสู่ตลาดโลกด้วยนวัตกรรม “ออล โคโค” ตั้งเป้าภายในปี 2564 จะทำยอดขายได้ 1,000 ล้านบาท
“โจทย์ของเราคือ ต้องการใช้มะพร้าวจากเกษตรกรโดยตรง หลังจากเปิดร้านออลโคโคในศูนย์การค้าแล้ว เราตั้งใจสร้างแบรนด์น้ำมะพร้าวไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก” นางวราภรณ์ มนัสรังษี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออล โคโค จำกัด กล่าว

ผลไม้ไทยยึดตลาดโลก

“13 ปีที่ผ่านมา เราเริ่มต้นการทำธุรกิจด้วยสวนมะพร้าวรวมของตัวเองและในกลุ่มเครือข่าย เพื่อส่งออกมะพร้าวน้ำหอมสดเป็นลูกแช่เย็น 20 ล้านลูกต่อปีไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลกในชื่อแบรนด์ K-Fresh โดย 60% ส่งไปสหรัฐซึ่งถือเป็นตลาดหลัก อีก 20% ส่งไปจีน สัดส่วนที่เหลือก็กระจายเป็นตลาดประเทศอื่นๆ แต่การจำหน่ายผลสดขึ้นอยู่กับฤดูกาล ขนาดของผลต้องเท่ากันและรูปทรงต้องสวย มีรอยช้ำไม่ได้ ทำให้ 40-50% ส่งออกเป็นผลสดแต่ส่วนที่เหลือต้องทำการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่เช่นนั้นต้องทิ้งหรือขายไปในราคาถูก”

ออลโคโคจึงลงทุน 200 ล้านบาทตั้งโรงงานแปรรูปมะพร้าวน้ำหอม เริ่มจากน้ำมะพร้าวบรรจุขวด เพราะใช้ระบบแรงดันเจาะลูกมะพร้าวสู่ขวด น้ำมะพร้าวจะไม่สัมผัสกับออกซิเจน ไม่ผ่านความร้อน เป็นเทคโนโลยีจากเยอรมนี ทั้งยังใช้เทคโนโลยีแรงดันสูงแทนความร้อนยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ช่วยยืดอายุสินค้าได้นานขึ้นและรักษารสชาติน้ำมะพร้าวให้ใกล้เคียงกับผลสด ทำให้แตกต่างจากน้ำมะพร้าวบรรจุขวดในตลาด ทั้งยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น เกล็ดหิมะ พุดดิ้งและซอฟต์ไอศกรีมซึ่งคิดค้นนานกว่า 5 ปี ไม่มีส่วนผสมของน้ำ ไม่ใส่กะทิ ไม่ใส่นม ไขมันต่ำ
กลุ่มบริษัท ออลโคโค เป็นผู้ประกอบการชั้นนำในอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมะพร้าวน้ำหอมและผลิตภัณฑ์ขนมจากน้ำมะพร้าวน้ำหอม มีศักยภาพการบริหารจัดการครอบคลุมตั้งแต่ต้นสายของการดูแลวัตถุดิบถึงขั้นตอนสุดท้ายในการผลิต โดยดำเนินการผ่านเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรมาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี รวมพื้นที่เพาะปลูกกว่า 6,000 ไร่ ปริมาณผลผลิตประมาณ 100,000 ลูกต่อวัน ทั้งยังเป็นผู้จัดส่งให้เป็นวัตถุดิบให้กับแบรนด์น้ำมะพร้าวระดับโลกอีกหลายราย นอกเหนือจากผลสดส่งออกแล้ว ยังมีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง

เกษตร 4.0 ทางรอดชาวสวนไทย

ในส่วนของแปลงมะพร้าวใหม่และเก่าจะพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ร่วมกับเกษตรกร เพื่อให้เกิดมาตรฐานในฟาร์มซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับภาคการส่งออก จึงต้องการให้เกษตรกรเข้ามาเรียนรู้และเห็นถึงสินค้าที่มีคุณภาพและมาตรฐานในฟาร์มที่สากลยอมรับ ทั้งนี้ แปลงมะพร้าวน้ำหอม จ.ราชบุรี มีพื้นที่ 400 ไร่ได้ทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เผยแพร่ผลงานวิจัยการใช้ไบโอโลจิคัลคอนโทรล เข้ามาควบคุมแปลงมะพร้าวน้ำหอมอย่างเป็นระบบ
“ช่วงแรกนำเสนอมะพร้าวน้ำหอมแปรรูปในไทยก่อน เป็นสเกลเล็กๆ โชว์ให้ต่างชาติเห็นถึงความเป็นนวัตกรรมในสินค้าเกษตรไทยที่ขายได้จริงทั่วโลก ถือเป็นแบรนด์คนไทยที่ก้าวไปได้รวดเร็วและเป็นที่ยอมรับ มีนักลงทุนต่างชาติมาเซ็นสัญญาซื้อแฟรนไชส์ร้านออลโคโคสำหรับนำไปเปิดให้บริการในต่างประเทศ”

แนวทางการทำเกษตรของบริษัทจะมุ่งสู่ “การเกษตรสมัยใหม่” เน้นการบริหารจัดการและเทคโนโลยี เพื่อให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและเป็นเกษตรกรยุค 4.0 จึงพยายามที่จะใช้นวัตกรรมในทุกมิติ ยกตัวอย่าง ช่วงที่จะเปิดตัวออลโคโค ต้นทุนมะพร้าวยังราคาถูกมากจึงต้องการเพิ่มมูลค่า เพราะส่งออกได้แค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้นแทนที่จะไปขายทิ้งในราคาถูก
“แต่หลังจากลงทุนสร้างโรงงานแล้ว ราคามะพร้าวน้ำหอมเพิ่มขึ้นจากเดิมลูกละ 5 บาทขยับเป็น 30 บาท ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ สำหรับผู้ประกอบการที่เพิ่งลงทุนสร้างโรงงาน จึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางให้ธุรกิจอยู่รอด กระทั่งสามารถผ่านวิกฤติราคามาได้ด้วยดี” นางวราภรณ์ กล่าว