เปิดปูมประวัติฉาว "เณรคำ" อวดอุตริ ข่มขืนเด็ก ฉ้อโกง

 เปิดปูมประวัติฉาว "เณรคำ" อวดอุตริ ข่มขืนเด็ก ฉ้อโกง

เปิดปูมประวัติฉาว "เณรคำ" อวดอุตริ ข่มขืนเด็ก ฉ้อโกง

นายวิรพล สุขผล หรือ “เณรคำ” ปัจจุบันอายุ 38 ปี ได้บวชเณรตั้งแต่เด็ก แล้วมาบวชเป็นพระที่วัดดอนทาด ตำบลทรายมูล อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี 2542 กระทั่งได้ย้ายไปมาจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์ขันติธรรม ในอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ

แรกเริ่มเดิมที่ เณรคำไม่มีวี่แววว่าจะเป็นพระดัง แต่ด้วยการสร้างภาพเป็นพระสายปฎิบัติเคร่งครัด จนกระทั่งมีลูกศิษย์ลูกหามากมายนิมนต์เดินทางให้ไปทำพิธีทั้งในและต่างประเทศจนมีภาพ เณรคำ สวมแว่นตาเรย์แบนด์ ใช้โทรศัพท์ไอโฟน สะพายกระเป๋าหลุยส์วิตอง นั่งเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวสุดหรู

จุดเริ่มต้นของคดีอดีตพระฉาวรายนี้ ถูกร้องเรียนว่า มีพฤติการณ์อวดอุตริ เพื่อฉ้อโกงเงินบริจาคจากประชาชน และข่มขืนเด็กสาววัยเพียง 14 ปี ต่อมาดีเอสไอรับไว้เป็นคดีพิเศษในชั้นสอบสวนดีเอสไอพบว่า เณรคำ’ได้ข่มขืนเด็กหญิงวัย 14 ปี รายหนึ่งจนกระทั่งตั้งท้องคลอดลูกชาย โดยมีการนำเครื่องใช้ส่วนตัวของเณรคำไปตรวจดีเอ็นพบว่าเอ็นเอ็นเอตรงกับลูกชายของเด็กหญิง จนนำไปสู่การตั้งข้อหากระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี

ส่วนพฤติการณ์อวดอุตริ มีหลักฐานพบว่า ในการเดินสายเทศน์ เณรคำ มักอวดอ้างว่าตัวเองเป็นพระสงฆ์ชรารูปหนึ่งที่มรณภาพแล้วกลับชาติมาเกิดสามารถระลึกชาติได้และกลายเป็นที่มาของชื่อ“หลวงปู่เณรคำ” และออกหนังสือเกี่ยวกับประวัติและประสบการณ์ปาฏิหาริย์ชื่อ “ชาติหน้าไม่ขอมาเกิด”

เมื่อมีชื่อโด่งดังไปทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนที่หลงเชื่อและเลื่อมใสศรัทธาเดินทางมาทำบุญและบริจาคเงินที่วัดป่าขันติธรรม และฉวยโอกาสระดมเงินสร้าง “พระแก้วมรกตจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ต้องใช้ทองคำน้ำหนักกว่า 8,000 กิโลกรัม โดยอ้างว่า เพื่อธำรงพุทธศาสนา ทำให้พุทธศาสนิกชนร่วมบริจาคเงินและทองคำจำนวนมาก

สำหรับเงินทองที่ได้รับจากการบริจาคคาดว่ามีจำนวนมหาศาลหลายร้อยล้านบาท ส่วนหนึ่งถูกนำไปพัฒนาสำนักสงฆ์ป่าขันติธรรม อีกส่วนหนึ่งนำเอาไปใช้ในการสร้างภาพลักษณ์ให้แก่ตัวเอง เช่น นำไปบริจาคให้โรงเรียนหรือโรงพยาบาล รวมทั้งสร้างอิทธิพลอำนาจทางสงฆ์ด้วยซื้อรถเบนซ์ไปมอบให้พระชั้นผู้ใหญ่ใช้สำหรับเดินทางไปกิจนิมนต์ ส่วนที่เหลือเอาเข้ากระเป๋าตัวเอง

จากการตรวจสอบพบว่า เณรคำ บัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆมากถึง 41 บัญชี มีบ้านหรูอีก 2 หลัง ในจังหวัดอุบลราชธานีและ ศรีสะเกษ รวมทั้งรถยนต์หรูราคาแพงทั้งรถโรลส์-รอยซ์ /เฟอร์รารี และรถเบนซ์ รวลมูลค่าทรัพย์สินกว่า 200 ล้านบาท

ทั้งหมดข้างต้น คือที่มาของการสรุปสำนวนสั่งฟ้อง”เณรคำ” ในข้อหากระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า15ปี / พรากผู้เยาว์ / ฉ้อโกงประชาชน /ฟอกเงิน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รอเพียงการนำตัว‘ เณรคำ’ กลับมาดำเนินคดีเท่านั้น

สำหรับเหตุผลที่ “เณรคำ” ตัดใจไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลรัฐแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากเงินทองที่นำติดตัวไปอาจหร่อยหรอ ไม่พอใช้จ่ายในการต่อสู้คดีซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงตัดสินใจกลับมาต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ ผิด-ถูก ในแผ่นดินบ้านเกิดก็เป็นไปได้