PTTGC - ซื้อ

PTTGC - ซื้อ

ไตรมาสที่แย่สุดได้ผ่านไปแล้ว แนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งในไตรมาสหน้า

ประเด็นการลงทุน

เราคาดว่ากำไรหลักรายไตรมาสของ PTTGC จะเติบโตแข็งแกร่ง YoY ต่อเนื่องไปตลอดทั้งปีนี้และคาดว่ากำไรหลักของปี 2560 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 62% ซึ่งได้แรงหนุนมาจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น, ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากการเข้าซื้อกิจการ แต่ในทางตรงกันข้าม เราประมาณการกำไรของตลาดปี 2560 เติบโตเพียง 7% มูลค่าหุ้นปัจจุบันยังคงถูก โดยซื้อขายที่ระดับ PER ปี 2560 อยู่ที่ 9.6 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 11.4 เท่า และค่าเฉลี่ยในภูมิภาคเอเชียที่ 12.9 เท่า เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ

คาดกำไรหลักเติบโตอย่างโดดเด่น YoY ในไตรมาส 2/60

เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 อยู่ที่ 6,358 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29 % YoY แต่ลดลง 52 % QoQ ถ้าไม่รวมผลกระทบจากการขาดทุนของสินค้าคงคลังซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 1.2 พันล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 256 ล้านบาท กำไรหลักไตรมาส 2/60 จะอยู่ที่ 7,308 ล้านบาท (ซึ่งเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของปี 2017) เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง
177% YoY แต่ลดลง 34% QoQ ปัจจัยเบื้องหลังการเติบโต YoY ได้แก่ 1) อัตราการใช้กำลังการกลั่นที่เพิ่มขึ้น (ไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น), 2) ปริมาณขายผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ที่เพิ่มมากขึ้น (ไม่มีการหยุดโรงงานนอกแผน), 3) ค่าการกลั่นตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น และ 4) ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ปรับตัวสูงขึ้น ปัจจัยหลักเบื้องหลังกำไรหลักที่ปรับตัวลดลง QoQ ได้แก่ ปริมาณขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ลดลง (จากการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานตามแผน) และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล (รูปประกอบที่ 1 และ 2) ทั้งนี้กำไรที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจโรงกลั่นจะช่วยบรรเทาการปรับตัวลดลงของกำไรหลัก QoQ

คาดกำไรหลักจะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 3/60

กำไรหลักของ PTTGC คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY และฟื้นตัว QoQ ในไตรมาส 3/60 ซึ่งได้แรงหนุนจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น, ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไฮซีซั่นและส่วนแบ่งกำไรจากสินทรัพย์ที่เพิ่งซื้อจาก PTT เนื่องจากไม่มีแผนการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นจะใช้อัตราการกลั่นเต็มกำลัง เราคาดว่าปริมาณขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานตามแผนที่ลดลง นอกจากนี้อุปสงค์ช่วงไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึงของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และอะโรเมติกส์น่าจะหนุนให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้น QoQ เราคาดส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่สูงขึ้นขึ้นจะสามารถกลบผลกระทบจากค่าการกลั่นที่ลดลงจากช่วงโลว์ซีซั่นได้ การปรับตัวดีขึ้นของอุปสงค์ และอุปทานจะผลักดันค่าการกลั่นตลาดให้ปรับเพิ่มขึ้นและช่วยหนุนส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในเชิง YoY

ตลาดมีแนวโน้มปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2017

หากประมาณการกำไรไตรมาส 2/60ของเราถูกต้อง กำไรหลักของ PTTGC ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 จะอยู่ที่ 57% ของประมาณการกำไรปี 2560 ของเราและ 58% ของประมาณกำไรของตลาด สมมติฐานทั้งของเราและตลาดในเรื่องอัตราการใช้กำลังการผลิตปิโตรเคมีและผลประโยชน์จากโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานนั้นอยู่ในระดับที่อนุรักษ์นิยมกว่าเป้าหมายของบริษัท ดังนั้นหากบริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้ (ถึงแม้ใช้สมมติฐานว่าส่วนต่างราคาโอเลฟินส์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ต่ำกว่าครึ่งปีแรก) ประมาณการของเราชี้ว่าบริษัทจะมีกำไรหลัก 3.8 หมื่นล้านบาทในปี 2560 (ทำสถิติสูงสุดใหม่) ซึ่งสูงกว่าประมาณการปัจจุบันของเรา 17% และสูงกว่าประมาณการปัจจุบันของตลาดถึง 19% นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. (เร็วกว่าแผนที่วางไว้ 3 เดือน) PTTGC ได้รับโอนสินทรัพย์จาก PTT ซึ่งรวมถึงบริษัท HMC โพลีเมอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตโพลีโพรพิลีนที่มีกำไรสูง ซึ่งอาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะหนุนให้ตลาดปรับเพิ่มประมาณการกำไร