MORNING CALL ACTION NOTES (17 ก.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (17 ก.ค.60)

Selective Buy

ความกังวลของนักลงทุนต่อ NPL ในหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ก่อนจะมีการประกาศงบการเงินไตรมาส 2 ออกมาในสัปดาห์นี้ ซึ่งกดดันต่อภาวะตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ให้ปิดลดลงเล็กน้อย -1.62 จุด ด้วย Vol. 3.5 หมื่นลบ. โดยปิดสิ้นวันที่ระดับ 1,577.79 จุด ส่วน Foreign Net +386 ลบ. TFEX Net +10,759 สัญญา ส่วนตลาดตราสารหนี้ -2,900 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ สหรัฐ CPI ทรงตัวในเดือนมิ.ย. ส่งผลให้เฟดอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้

+ น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากบริษัทเชลล์ประกาศหยุดส่งออกน้ำมันดิบในไนจีเรีย เนื่องจากมีการปิดท่อส่งน้ำมัน 1 ใน 2 ท่อในประเทศ

+ ยูโรโซนมีตัวเลขเกินดุลการค้า 2.14 หมื่นล้านยูโรในเดือนพ.ค.

+ จีนเผย GDP Q2/60 ขยายตัว 6.9% ไม่เปลี่ยนแปลงจาก Q1/60

+ สศช.เตรียมปรับเพิ่มเป้าจีดีพีปี 60 ขยายตัวเกิน 3.5% สอดคล้องกับ ธปท. ที่มองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการส่งออกสินค้าและบริการ

- เฟดดัลลัสเผยอาจทำการปรับลดงบดุลอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ย. จากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน

- สหรัฐ ยอดค้าปลีกลดลง 0.2% ในเดือนมิ.ย.

+/- Fund Flow ต่างชาติยังคงผันผวนล่าสุดเป็นพลิกเป็น Net Buy ราว 386 ลบ. โดยเงินบาทกลับมาแข็งค่าล่าสุด 33.69 Bath/USD

** เข้าสู่ช่วง Preview งบ Q2/17 กลุ่มธนาคาร คาดกำไรของธนาคารกลุ่มเช่าซื้อจะเติบโตขึ้น ในขณะที่กำไรทั้งกลุ่มธนาคารทรงตัว

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน อีกทั้ง CPI สหรัฐที่ออกมาทรงตัวส่งผลให้เฟดอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ออกไป ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นในกรอบ 1,570 – 1,585 จุด

กลยุทธ์การลงทุน รอซื้อช่วงอ่อนตัวในกลุ่มที่มีปัจจัยบวก

- กลุ่มพลังงาน ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4 มาอยู่ที่ 46.54 $/bbl

- กลุ่มที่คาดว่างบ Q2/17 จะเติบโตขึ้น CK BPP RS LH HARN WICE JWD LIT BIZ MGT ECF BEM

- กลุ่มปันผลครึ่งปีสูง ADVANC INTUCH CSL KKP TCAP LH QH SIRI TTW

หุ้นแนะนำพิเศษ

AMA (ราคาปิด 21.5 ซื้อ ราคาเหมาะสม 26.80)

• กลยุทธ์การเจรจาเพื่อหาออเดอร์จากลูกค้าเพื่อสร้าง Utilization ขั้นต่ำให้มากกว่า 90% ก่อนการเข้าซื้อเรือทุกครั้ง เป็นผลให้ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าการขยายกองเรือของบริษัทในปัจจุบันกว่า 78% (YTD) (รวมเรือลำล่าสุดที่จะส่งมอบในกลางเดือน ส.ค.) จะเป็นประเด็นหลักหนุนต่อการเติบโตของรายได้ธุรกิจขนส่งสินค้าเหลวทางทะเล (กว่า 72% ของรายได้รวม) ในช่วงที่เหลือของปี 60 และยังเป็นผลบวกเต็มปีในปี 61 ร่วมกับแผนการขยายกองเรืออีก 2 ลำ

• ธุรกิจรถบรรทุกน้ำมัน (28% ของรายได้) แม้ปัจจุบันยังไม่เด่น เนื่องจากสัดส่วนการเดินรถแบบ Backhauling ที่สร้างอัตรากำไรสูง ยังมีสัดส่วนต่ำราว 10% แต่เชื่อว่าการทำกำไรในปัจจุบันโดยรวมน่าจะเป็นจุดต่ำสุด นอกจากนี้กองรถปัจจุบันที่ 125 คัน มีสัญญาการให้บริการครอบคลุมทั้งหมดแล้ว (สัญญา 150 คัน) พร้อมกับแผนขยายเป็น 180 คันในสิ้นปี 60 และ 230 คัน ในปี 61

• นอกเหนือจากการขยายกำลังการให้บริการ AMA ยังน่าจะได้รับผลบวกจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนี Baltic Clean Tanker Index (สามารถอ่านรายละเอียดได้ในบทวิเคราะห์วันที่ 14 ก.ค. 60) โดยมีค่าเฉลี่ย YTD เพิ่มขึ้น 20% YoY โดยรวมฝ่ายวิจัยคาดกำไรปี 60 เติบโต 112.6% YoY มาอยู่ที่ 305 ลบ. ทั้งนี้ จะเห็นผลประกอบการที่เริ่มก้าวกระโดดตั้งแต่งวด 2Q60 เป็นต้นไป โดยคาดจะเติบโต 79% YoY แนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 26.8 บาท Upside 24.6%

หุ้นมีข่าว

(+) TMB (ราคาปิด 2.32 Bloomberg Consensus 2.41) ต่อสัญญาเอฟดับบลิวดีประกันชีวิต (FWD) เสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิตผ่านธนาคาร เป็นเวลา 15 ปี ตั้งแต่ม.ค.60 พร้อมรับทันที 2.05 หมื่นล้านบาท คาดบันทึกในไตรมาส 3 นี้ (สรุปจากนสพ.ข่าวหุ้น)

      ความเห็น เป็น sentiment เชิงบวกต่อรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยของธนาคาร ซึ่งทีผ่านมายอดขายเบี้ยประกันชีวิตของธนาคารเติบโตมากกว่าการเติบโตของตลาดมากกว่า 3 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาและแนวโน้มกำไรใน Q3 เติบโต QoQ และ YoY ทั้งนี้ คาด TMB จะส่งงบ Q2/2560 ในวันนี้ คาดแนวโน้มอ่อนตัวเมื่อเทียบ YoY

(+/-) กนอ.สั่ง PTTGC (ราคาปิด 69.25 Bloomberg consensus 79.63) ระงับเดินเครื่องหน่วยที่สารเคมีรั่วไหลใน รง.อะโรเมติกส์ 2 พร้อมทำแผนปรับปรุงใน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.-12 ส.ค.60 และให้รายงานต่อ กนอ.เป็นระยะ ๆ

      ความเห็น จากการสอบถามไปยังบริษัท การหยุดเดินเครื่องหน่วยที่สารเคมีรั่วจะไม่กระทบต่อการกลับมาเดินเครื่องของโรงงานอะโรเมติกส์ 2 ในวันที่ 18 ก.ค. นี้

(+) NOK (ราคาปิด 4.72 Bloomberg Consensus 5.39) คาดปี 61 พลิกกำไรจากปี 60 คาดยังขาดทุนแต่ลดลงจากปีก่อน เพิ่มประสิทธิภาพใช้เครื่องบิน-เส้นทางตปท.

(+) BCP (ราคาปิด 33.25 Bloomberg Consensus 37.88) จ่ายค่าหุ้นใน Lithium Americas Corp. เพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเป็น 16.1% พร้อมให้เงินกู้เร่งพัฒนาเหมืองลิเทียม

(+) WIIK เผยบ.ย่อยเริ่มเดินระบบผลิตน้ำประปาให้แก่นิคมฯเวลโกรว์แล้วตั้งแต่ 5 มิ.ย.

ตลท. ปรับย้ายหมวดธุรกิจการซื้อขายของบมจ.กรีน รีซอร์สเซส (GREEN) และบมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น (NEWS) โดยย้าย GREEN มาอยู่ในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ NEWS อยู่ในกลุ่มธุรกิจบริการ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้

AOT (ราคาปิด 48.75 Bloomberg Consensus 46.37) เผยผู้รับเหมายื่นซื้อซองงานสัญญา สัญญางานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้นที่ 2-4) 8 ราย เตรียมเคาะราคา 11 สิงหาคมนี้ ส่วนงานระบบ APM หวังได้รับตัวผู้รับเหมาภายในกันยายน 2560 ด้านโบรกเกอร์ชี้ 4 ผู้รับเหมา ITD CK UNIQ STEC ได้มีโอกาสสอยงานเข้าพอร์ต (ที่มา ทันหุ้น)


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +84.65 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,637.74 จุด เพิ่มขึ้น 84.65 จุด หรือ +0.39% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,459.27 จุด เพิ่มขึ้น 11.44 จุด หรือ +0.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,312.47 จุด เพิ่มขึ้น 38.03 จุด หรือ +0.61%ทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกที่ซบเซาของสหรัฐได้ช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารได้สกัดแรงบวกในตลาด แม้ว่าธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส และซิตี้กรุ๊ป ได้เปิดเผยผลประกอบการที่สดใสก็ตาม

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.46USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 46.54 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังดีดตัวขึ้นหลังจากบริษัทเชลล์ได้ประกาศภาวะสุดวิสัยสำหรับการส่งออกน้ำมันดิบบอนนี ไลท์ของไนจีเรีย เนื่องจากมีการปิดท่อส่งน้ำมัน 1 ใน 2 ท่อในประเทศ

ส่องหุ้น

- FSMART แนวรับ 19.00 บาท แนวต้าน 19.40-19.60 บาท

- ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาได้อีกครั้งท่ามกลางวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มขึ้นมาก หลังจากระดับราคาดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้ในวันก่อนหน้า โดยขยับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์ อีกทั้ง MACD ที่ทะลุระดับศูนย์ขึ้นมาได้แล้ว หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 19.00 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 19.40-19.60 บาทต่อไป

- ALLA แนวรับ 2.56-2.54 บาท แนวต้าน 2.64 , 2.74 บาท

- ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้อีกครั้ง หลังจากไม่หลุดลงไปต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น และ MACD ที่เริ่มดีดกลับขึ้นมาอีกครั้งไม่หลุดลงไปต่ำกว่าศูนย์ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 2.56-2.54 บาทซะก่อน จึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 2.64 บาทและ 2.74 บาทต่อไป

- CBG แนวรับ 68.25-68.00 บาท แนวต้าน 69.75 , 71.50-72.00 บาท

- ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง โดยมีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยและระดับราคามีการขยับขึ้นทำ New high ในรอบสัปดาห์ ประกอบกับ MACD ที่กำลังจะผ่านขึ้นมายืนในระดับศูนย์ได้อีกครั้ง หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 68.25-68.00 บาทอีก ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้ โดยมีแนวต้านแรกบริเวณ 6975 บาท ผ่านหรือปิดได้เร็ว ค่อยเพิ่มลุ้นขึ้นต่อแถวๆ 71.50-72.00 บาทต่อไป