ตำรวจรวบ 2 คนร้ายกระชากมือถือเหยื่อริมถนน

ตำรวจรวบ 2 คนร้ายกระชากมือถือเหยื่อริมถนน

ตำรวจ สน.วังทองหลาง โชว์ฝีมือบุกรวบ 2 ขาโจ๋ก่อเหตุกระชากโทรศัพท์มือถือเหยื่อริมถนน ผู้ต้องหารับสารภาพคึกคะนอง แถมเมาเหล้าและใบกระท่อม

จากการณีที่มีภาพนาทีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์มาริมถนน ก่อนที่คนร้ายนั่งซ้อนท้ายจะตัดสินใจลงไปกระชากโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ ที่ยืนอยู่ริมถนน แล้ววิ่งกลับมาขึ้นรถ แต่เหยื่อหนุ่มรายนี้ตัดสินใจวิ่งไล่ตามคนร้าย และไปแย่งมือถือคืน โดยได้กระชากคนร้ายจนเสียหลักทำให้รถล้มลง จนตัวเองได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะชิงเอาโทรศัพท์กลับคืนมาได้ ส่วนคนร้ายสามารถหลบหนีไปได้ พร้อมกับข้อความว่า "คนร้ายอยากได้โทรศัพท์ ก็ฉกแบบนี้เลยหรือ ส่วนผู้เสียหายก็ใจกล้ามากๆ ตามไปเอาคืนกระชากเหวี่ยงรถโจรจนล้ม ราวกับในหนัง สู้แบบไม่คิดถึงชีวิต แบบนี้เป็นอันตรายใกล้ตัวเราจริงๆ ยุคนี้ไปไหนมาไหนต้องระวังตัว เพราะโจรชุกชุมยิ่งกว่ายุง" หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ไป ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล เรียกร้องให้ตำรวจตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้

พ.ต.อ.ธรรมนูญ บุญเรือง ผกก.สน.วังทองหลาง กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้มีจากการตรวจสอบพบว่า เหตุเกิดที่บริเวณ รามคำแหง65 แยก25 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. เมื่อเวลา 09.13 น ของวันที่9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จึงได้สั่งการให้พ.ต.ท.นเรนทร์ เครื่องสนุก รอง ผกก.สน.วังทองหลาง พ.ต.ท.ปรัชญา บุญยืน สว.สส.สน.วังทองหลาง และฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตรวจสอบกล้องวงจรปิด และทำการสอบปากคำพยาน และผู้เสียหายคือ นายปัณณวิทย์ ศรีอุตาธา อายุ 26 ปี เหยื่อที่ถูกคนร้ายชิงมือถือไป

กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบทราบว่า นายมาร์วิน รัมมา อายุ 20 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่ชิงทรัพย์ เรียนอยู่มหาวิทยาลัยธุรกิจบันฑิต ชั้นปี2 ดังนั้น จึงได้ติดตามไปยังที่พัก แต่เจ้าของอพาท์เม้นได้ให้การว่า นายมาร์วิน ได้หลบหนีไปบ้านที่ จ.ชุมพร ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกติดตาม พร้อมกับกดดันจนคนร้ายรายนี้ได้ยอมออกมามอบตัวในที่สุด โดยนายมาร์วินได้ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับนายอภิโชติ ศิริกรวณิช อายุ 23 ปี ผู้ขับขี่รถจยย. ก่อเหตุดังกล่าวจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามตัวจนล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่14 กรกฎาคม นายอภิโชติ ศิริกรวณิช อายุ 23 ปี ผู้ขับขี่รถจยย.อาชีพเป็นโฟรแมนของ บริษัท SCG ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ หลังทราบว่าเป็นข่าวโด่งดัง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุม พร้อมของกลางจักรยานยนต์ รุ่น ยี่ห้อ ฮอนด้า สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนโทรศัพท์มือถือ ซัมซุม กาแลคซี่ รุ่น เอส3 (ของผู้เสียหาย)

ทั้งนี้ นายอภิโชติ ได้ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือทำไปเพราะความมึนเมา เนื่องจากก่อนเกิดเหตุตนได้ไปหาเพื่อนแถวมหาลัยธุระกิจบันฑิต และได้นั่งกินเหล้าและใบกระท่อมกัน จนได้รู้จักนายมาร์วิน ซึ่งเป็นรุ่นน้องนั่งอยู่ด้วย จากนั้นตนได้ชวนน้องมาที่หลังรามคำแหง เพื่อที่จะมาดูแข่งนก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็พูดกันเล่นๆว่า ให้น้องกระชากโทรศัพท์จากชายดังกล่าว ซึ่งช่วงนั้นนายมาร์วิน ได้เอามือถือไปจำนำไว้ และจะหาเงินไปถ่ายคืนพอดี จึงได้ลงไปแย่งโทรศัพท์จากชายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สาเหตุตนทำไปเพราะความคึกคะนอง และรู้สึกรับผิดชอบชั่วดี จึงได้เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป

ต่อมาเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัว 2 ผู้ต้องหาไปส่งศาลอาญา เพื่อทำการฝากขังต่อไป