Retail Market Monitor (14 ก.ค.60)

Retail Market Monitor (14 ก.ค.60)

บรรยากาศการเก็งกำไรเป็นบวกแม้เคลื่อนไหวในกรอบจำกัด

ตลาดหุ้นโลกยังได้อานิสงค์จากการที่เฟดส่งสัญญาณพร้อมที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงค่าเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง ซึ่งเป็นบวกต่อการฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยงและโภคภัณฑ์ ทำให้ SET ยังมีโอกาสแกว่งตัวเชิงบวก อย่างไรก็ตามกรอบการปรับขึ้นยังจำกัดอยู่ที่ 1590-1600 จุด เนื่องจากเม็ดเงินต่างชาติที่ยังไหลเข้าจำกัด

เราเชื่อว่าอัตราผลผลตอบแทนพันธบัตรในระยะกลางยังมีทิศทางปรับขึ้น ซึ่งจะกลับมากระทบหนักกับหุ้นที่ซื้อขายด้วย valuation ที่แพงอีกครั้ง ดังนั้นช่วงสั้นควรหลีกเลี่ยงการเสี่ยงซื้อหุ้นในกลุ่มที่ PER สูง ขณะที่หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งโดยเชิงโครงสร้างหรือมีโมเมนตัมของกำไรที่เพิ่มขึ้น จะโดดเด่นกว่าตลาด กลุ่มสาธารณูปโภคหรือหุ้นที่กำไรมั่นคง คาดจะมีแนวโน้ม Outperform ตลาดในช่วงนี้ เรามองหาจังหวะทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร บันเทิง โรงแรม และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ ขณะที่สามารถเลือกลงทุนหุ้นปิโตรเคมีจากราคาพลังงานที่ทรงตัว โดยเราชอบ IRPC ที่สุด การเก็งกำไรเลือกหุ้นที่ยัง Laggard และตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำ BANPU, EASTW, JMART*, SAPPE //เก็งกำไร TK*, ACAP*

ประเด็นการลงทุน

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ - กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 247,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน โดยตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 123 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970

โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันได้รับแรงบวกหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน อย่างไรก็ตามการผลิตน้ำมันทั่วโลกเพิ่มขึ้นและความร่วมมือลดกำลังการผลิตของประเทศกลุ่มโอเปคมิ.ย.อยู่ที่เพียง 78% ของตัวเลขที่ตกลง

AOT - อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ภายใน 1-2 วันนี้ จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางการจัดเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุพื้นที่อากาศยานสุวรรณภูมิ โดยหลักการจะใช้วิธีการเรียกเก็บอัตราค่าตอบแทนตามแนวทางใหม่ ซึ่งเป็นไปตามผลการศึกษาจากหลักมาตรฐานสากลในการจัดให้เช่าอสังหาริมทรัพย์โดยทั่วไป อย่างไรก็ตามราคาเคลื่อนไหวล่วงหน้าและปรับขึ้น 25% ตั้งแต่เม.ย. ทำให้อาจต้องระวังแรงขาย sell on fact เมื่อข่าวประกาศ

DTAC – รายงานกำไรไตรมาส 2/60 เพิ่มขึ้น 426% YoY และ 224% QoQ ดีกว่าตลาดคาดมาก จากการเติบโตรายได้ของลกค้ารายเดือนและการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น ซึ่งเราคาดส่งผลบวกให้เห็นการปรับประมาณการกำไรและราคาเหมาะสมขึ้น

ประเด็นติดตาม: 17 ก.ค. - GDP ไตรมาส 2/60 / 20 ก.ค. – ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นและยุโรป

แนวรับ 1568/แนวต้าน : 1580 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)

หุ้นแนะนำ

• BANPU (24) : ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 คาดฟื้นตัวแข็งแกร่งจากหน่วยผลิตที่หงสาที่ดีขึ้น อีกทั้งสถานการณ์อุปทานตึงตัวที่ตอนเหนือของจีน คาดส่งผลบวกต่อราคาถ่านหินในระยะสั้น

• EASTW (15) : ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 คาดฟื้นตัวต่อเนื่อง จากรายได้ที่ไม่ถูกกระทบจากภัยแล้งและต้นทุนการผันน้ำที่ลดลง

• JMART* (15) : คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 แข็งแกร่ง เป็นผลจากทั้งยอดขายที่ดี และการฟื้นตัวของบริษัทในเครือทั้ง JMT, J และ SINGER

• SAPPE (33.50) : คาดกำไรไตรมาส 2/60 เพิ่มขึ้น QoQ และ QoQ รวมทั้งสูงสุดในปีนี้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะยอดส่งออก (65% ของยอดขายรวม) โดยเฉพาะจาก CLMV และตะวันออกกลาง ขณะที่ช่วงก่อนหน้าราคาถูกกดดันจากผลประกอบการปีก่อนและภาษีน้ำตาลมากเกินไป

• ประเด็นลงทุน: TK* (ซื้อขายที่เพียง PER 11 เท่า ปันผล 4.3% ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการบริโภคและราคาสินค้าเกษตร บริษัทปรับเป้าการปล่อยกู้ขึ้นเป็น 10% จาก 5%) / ACAP* (ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 คาดฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสปรับเพิ่มปล่อยกู้ขึ้นจาก 6 พันล้านบาท)