MORNING CALL ACTION NOTES (14 ก.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (14 ก.ค.60)

ปัจจัยบวกสหรัฐหนุน

ตลาดหุ้นไทยได้อานิสงส์เชิงบวกจากถ้อยแถลงของประธาน Fed ที่มองภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวมปรับดีขึ้นและส่งผลดีต่อภาคการผลิตและการส่งออกของสหรัฐฯ ช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยให้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.48 จุด ด้วย Vol. 4.5 หมื่นลบ. โดยปิดสิ้นวันที่ระดับ 1,579.41 จุด ส่วน Foreign Net +1,425ลบ. TFEX Net +11,042 สัญญา ส่วนตลาดตราสารหนี้ 5,980 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ประธานเฟดเผยจะปรับลดงบดุลจาก 4.5 ล้านล้านดอลลาร์จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน

+ สหรัฐ ผู้ขอรับสวัสดิการลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 247,000 ราย และ PPI ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย.

+ น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจาก IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้

+ กทพ.คาดประกาศ TOR ประมูลก่อสร้างทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนฯ ใน ต.ค.60

+/- Fund Flow ต่างชาติยังคงผันผวนล่าสุดเป็นพลิกเป็น Net Buy ราว 1,425 ลบ. โดยเงินบาทกลับมาแข็งค่าล่าสุด 33.90 Bath/USD

** เข้าสู่ช่วง Preview งบ Q2/17 กลุ่มธนาคาร คาดกำไรของธนาคารกลุ่มเช่าซื้อจะเติบโตขึ้น ในขณะที่กำไรทั้งกลุ่มธนาคารทรงตัว

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับผลบวกจากประธานเฟดเผยการปรับลดงบดุลจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นปัจจัยหนุนต่อดัชนีเพิ่มเติม ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นในกรอบ 1,575 – 1,590 จุด

กลยุทธ์การลงทุน รอซื้อช่วงอ่อนตัวในกลุ่มที่มีปัจจัยบวก

- ILINK เผย INTERLINK CONSORTIUM & ZPE เซ็นรับงานสร้างสถานีไฟฟ้าของกฟภ.มูลค่า 274.99 ลบ.

- กลุ่มพลังงาน ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 มาอยู่ที่ 46.08 $/bbl

- กลุ่มที่คาดว่างบ Q2/17 จะเติบโตขึ้น CK BPP RS LH HARN WICE JWD LIT BIZ MGT ECF BEM

- กลุ่มปันผลครึ่งปีสูง ADVANC INTUCH CSL KKP TCAP LH QH SIRI TTW



หุ้นแนะนำพิเศษ

LIT    (ราคาปิด 11.90 ซื้อ ราคาเหมาะสม 14.20)

• ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อครบวงจรประเภท Non-Bank ลูกค้าเป็นผู้ประกอบการ SMEs ที่มีลูกค้าเป็นหน่วยงานราชการทำให้มีความเสี่ยงต่ำและรายได้มีศักยภาพในการเติบโตสูง ปริมาณสินเชื่อคงค้าง ณ ปลาย 1Q60 เกือบ 2 พันล้านบาทเติบโต 69%YoY

• ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 60 เพิ่มขึ้น 9% เป็น 150 ล้านบาทเติบโต 49% หลัง 1Q60 มีกำไรสุทธิ 34 ล้านบาท +72%YoY +20%QoQ ทำสถิติสูงสุดรายไตรมาสต่อเนื่อง แนวโน้มกำไร 2Q60 ยังเติบโต YoY และอาจทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาสแรก สำหรับปี 61 ประมาณกำไรสุทธิ +26% เป็น 188 ล้านบาท

หุ้นมีข่าว

(+) DTAC รายงานกำไรงวด 2Q60 ออกมาที่ 742.9 ลบ. +425.8%YoY เกิดจากรายได้บริการ (ไม่รวม IC) เพิ่มขึ้น 2.3% YoY แบ่งเป็นรายได้ Data เติบโต 27%YoY แต่ถูกหักล้างบางส่วนจากรายได้ Voice และบริการข้ามแดน ลดลง 35%YoY และ 4.2%YoY ตามลำดับ ต้นทุน (ไม่รวม IC) เพิ่มขึ้น 2.8%YoY แต่ค่าใช้จ่ายรวมลดลงถึง 25% YoY อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิรวมในงวด 1H60 ยังลดลง 30.67% YoY

ค่าใช้จ่ายงวด 2Q60 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเกิดจากความพยายามควบคุมและสร้างประสิทธิภาพจากคชจ.โฆษณาโดยเลือกเฉพาะกิจกรรมสำคัญ Outlook ทั้งปี 60 ยังพยายามรักษาระดับรายได้ (ไม่รวม IC) ให้ทรงตัว YoY ภายใต้ภาวะการแข่งขันที่เข้มข้นทั้งจากการผลักดันโปรโมชั่นดึงลูกค้าระดับบน และการให้ส่วนลดค่าเครื่องในบริการเติมเงิน และพิจารณางดจ่ายปันผลระหว่างกาลเพราะต้องการรักษาสถานภาพทางการเงินเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ระยะยาว

ความเห็น กำไรงวด 2Q60 มากกว่าที่ตลาดคาดถึง 271% โดยงวด 1H60 คิดเป็นถึง 83.3% ของประมาณการทั้งปีของ Bloomberg Consensus ในปี 60 ที่ 1,166 ลบ. (-44.08%YoY) จึงเชื่อว่าน่าจะมีการปรับประมาณการกำไรและมูลค่าพื้นฐานเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 45.4 บาท โดยแม้ไม่มีเงินปันผลระหว่างกาล แต่ภายใต้ภาวะ D/E ปัจจุบัน ที่สูงถึง 3 เท่า ในระหว่างที่กำลังจะมีการเปลี่ยนผ่านไปสู่สัมปทานบนคลื่นความถี่ใหม่ (คลื่น 2,300 Mhz. จาก TOT) ซึ่งจะเซ็นสัญญาในช่วงปลายปี อาจเป็นการช่วยลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและผลักดันให้มีการลงทุนได้อย่างไม่ติดขัด

(+) D (ราคาปิด 8.55 ซื้อ ราคาเหมาะสม 10.40)ได้ฤกษ์เปิดศูนย์ ทันตกรรม Dental Signature สาขาเอ็มควอเทียร์ 15 ก.ค.นี้ขยายตลาดในย่านสุขุมวิท ทองหล่อ และอ่อนนุชซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นคนไทย ญี่ปุ่น หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ (ที่มา ข่าวหุ้น)

     ความเห็น สาขาเอ็มควอเทียเป็นสาขาที่ 13 โดยในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดสาขา 3-4 แห่งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในอนาคตมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิปี 60 ราว 56 ล้านบาท เติบโต 32% 1Q60 มีกำไร 12.5 ล้านบาท +20%YoY ส่วนแนวโน้มกำไรในช่วง 2Q60 คาดว่าจะเติบโตทั้ง YoY และอย่างต่ำใกล้เคียง QoQ ตามการเติบโตของรายได้สาขาเดิม สาขาใหม่ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด

AOT (ราคาปิด 49 Bloomberg Consensus 46.37) กรมธนารักษ์เร่ง สรุปตัวเลขพื้นที่เชิงพาณิชย์ สนามบินสุวรรณภูมิ ภายใน 1-2 วันนี้ ระบุคิดอัตราใหม่แบบพื้นที่พัฒนาเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ คิดอัตรา ROA 5% และคิด 3% พื้นที่ไม่ได้ใช้ในกิจการการบิน (ที่มา ข่าวหุ้น)

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +20.95 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,553.09 จุด เพิ่มขึ้น 20.95 จุด หรือ +0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,447.83 จุด เพิ่มขึ้น 4.58 จุด หรือ +0.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,274.44 จุด เพิ่มขึ้น 13.27 จุด หรือ +0.21% ได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร ก่อนที่เจพีมอร์แกน, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ในวันนี้ และจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีก นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เน้นย้ำในการแถลงนโยบายรอบครึ่งปีเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.59 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 46.08 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง