โฮเรก้า4.0หนุน‘เอสเอ็มอี’ใหม่

โฮเรก้า4.0หนุน‘เอสเอ็มอี’ใหม่

ปัจจุบันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีมูลค่ากว่า 2.5 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เกือบ 50% หรือราว 1 ล้านล้านบาทมาจากธุรกิจ “โฮเรก้า” (HoReCa) กลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เบเกอรี่และบริการจัดเลี้ยง ซึ่งขับเคลื่อนผ่านผู้ประกอบการ“เอสเอ็มอี”

ลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ เอเชีย โฮเรก้า กล่าวว่าตลาดรวมธุรกิจโฮเรก้าปีที่ผ่านมาเติบโต 9% จากแผนกระตุ้นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ กลุ่มตลาดระดับบนของภาครัฐ โดยธุรกิจโรงแรม มีรายได้ 5.74 แสนล้านบาท กลุ่มเซ็กเมนท์โรงแรม4ดาว บูติคโฮเทล หรือโรงแรมแบบธีม (Theme Hotel) มีแนวโน้มขยายตัวสูง 

ส่วนธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ และธุรกิจรับจัดเลี้ยง มีรายได้ 7.74 หมื่นล้านบาท ปีที่ผ่านมามีผู้ประกอบกลุ่มนี้จดทะเบียนประกอบธุรกิจใหม่ 1.2 หมื่นราย สัดส่วน 99.72 เป็นธุรกิจเอสเอ็มอี

ปีนี้แนวโน้มธุรกิจโฮเรก้ายังขยายตัวต่อเนื่องราว 8-9%  จากปัจจัยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโต รวมทั้งเทรนด์คนรุ่นใหม่และวัยทำงานต้องการ“ลงทุน”เป็นเจ้าของธุรกิจเอง  คาดว่ายอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่กลุ่มร้านอาหาร ร้านกาแฟและจัดเลี้ยงปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนที่ราว 1.2 หมื่นราย สร้างรายได้กว่า 7 หมื่นล้านบาท 

ประเภทที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง คือ ร้านกาแฟและเบเกอรี่  ปีนี้เห็นทิศทางกลุ่มบูติค โฮเทล ที่มีดีไซน์โดดเด่นได้รับความสนใจลงทุนเพิ่มขึ้น รูปแบบการลงทุนมีหลากหลาย ตั้งแต่ระดับ  10 ห้องขึ้น ลงทุนระดับ 10 ล้านบาท มีจำนวนเพิ่มขึ้น

ขณะที่ร้านกาแฟและเบเกอรี่ เป็นธุรกิจที่คนรุ่นใหม่และวัยทำงานที่ต้องการหารายได้เพิ่มเข้ามาลงทุนในธุรกิจประเภทนี้มาอย่างต่อเนื่อง

“กลุ่มโฮเรก้าส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเอสเอ็มอี ที่มองหาช่องทางทำธุรกิจ แต่อาจขาดทักษะด้านการบริหาร การตลาดและการใช้เทคโนโลยีเข้ามาดำเนินธุรกิจ ที่ผ่านมาแม้มียอดจดทะเบียนผู้ประกอบการใหม่ในกลุ่มนี้ แต่ละปีมีกลุ่มที่ปิดตัวเช่นกัน”

ลัดดา กล่าวว่าเพื่อสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีใหม่และรายเดิม จึงจัดงาน HORECA ASIA 2017 ระหว่างวันที่ 12-14 ก.ค.2560 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อรองรับการเติบโตธุรกิจโฮเรก้า ในฐานะศูนย์รวมผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบด้านต่างๆ จนถึงผู้ให้บริการทั้งการออกแบบ การตลาด การบริหารจัดการ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโฮเรก้าครบวงจร โดยได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศกว่า 300 รายมาร่วมออกบูธ  นำเสนอผลิตภัณฑ์ แพลตฟอร์มและโซลูชั่นบริหารธุรกิจโฮเรก้าให้กับกลุ่มเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการนำไปพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน  คาดว่าจะมีผู้เข้ามาร่วมงานกว่า 6,000-7,000 คน 

ในยุคที่อุตสาหกรรมขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม  กลุ่มเอสเอ็มอีในธุรกิจโฮเรก้าต้องปรับตัว สู่ “โฮเรก้า 4.0” ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้บริหารธุรกิจ   เช่น ธุรกิจร้านอาหารสามารถใช้ซอฟต์แวร์บริหารจัดการหน้าร้านและหลังร้าน  ซึ่งจะทำให้ได้ “ข้อมูล”(ดาต้า) จากการรับเมนู  ช่วงเวลาใช้บริการ  เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์การบริหารเมนูที่ได้รับความนิยม การสต็อกวัตถุดิบ  การนำเสนโปโมชั่นที่เหมาะสม เป็นต้น  

การปรับตัวนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ จะช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนการผลิตและการบริหาร ขณะเดียวกันช่วยต่อยอดธุรกิจ สร้างรายได้ด้วยแนวทางใหม่และพัฒนาธุรกิจเดิมสู่ตลาดกลุ่มใหม่ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปในยุค 4.0

ทีเส็บ’บูมกลุ่มไมซ์อุตฯอาหาร

จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่าอุตสาหกรรมอาหารเป็นหนึ่งในเครื่องมือผลักดันเศรษฐกิจไทยเติบโต  จากจุดเด่นการเป็นแหล่งผลิตอาหารและงานบริการที่แข่งขันได้ในระดับโลก

ปัจจุบันไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางผลิตอุตสาหกรรมอาหารในเอเชีย และผู้นำในอาเซียน  ดังนั้นทีเส็บจึงสนับสนุนการจัดงาน HORECA ASIA 2017 เพราะเป็นเวทีการแสดงสินค้าและบริการสำหรับผู้ประกอบการในธุรกิจโฮเรก้าครบวงจรงานหนึ่งในเอเชีย เปิดโอกาสทางการค้าและการพัฒนาอุตสาหกรรม ให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเติบโตและแข่งขันได้ในตลาดสากล 

ขณะเดียวกันเป็นช่องทางที่ทำให้นักเดินทางกลุ่มไมซ์ในอุตสาหกรรมอาหารและบริการได้เข้ามาเห็นศักยภาพและความพร้อมของตลาดไทย ปีนี้ทีเส็บตั้งเป้าดึงนักธุรกิจกลุ่มไมซ์จากต่างประเทศ 1.1 ล้านคน คิดเป็นรายได้เข้าประเทศมากกว่า 1 แสนล้านบาท