RS - ซื้อเก็งกำไร

RS - ซื้อเก็งกำไร

ธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงามหนุนกำไรพุ่งทะยาน

ประเด็นการลงทุน

แม้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมากว่า 45% นับจากที่เราแนะนำให้นักลงทุน “ซื้อเก็งกำไร” ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มิ.ย. เราคาดราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ รับกับผลกำไรที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 2/60 และเติบโตดีต่อเนื่องในครึ่งหลังปี 2560 หนุนโดยยอดขายธุรกิจสุขภาพและความงามที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เราปรับประมาณการกำไรปี 2560 ขึ้น 60% มาอยู่ที่ 290 ล้านบาท   เพื่อสะท้อนการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจสุขภาพและความงาม จากการที่ธุรกิจสุขภาพและความงามเติบโตจนมีสัดส่วนใหญ่ในธุรกิจอื่น (ไม่รวมดิจิตอลทีวี)
เราจึงปรับ PER ของธุรกิจดังกล่าวขึ้นมาอยู่ที่ 26 เท่า (จากเดิม 22 เท่า) ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยห้าปีของ KAMART และ BEAUTY 10% (เราให้ PER ถูกกว่ากลุ่มเนื่องจากธุรกิจสุขภาพและความงามต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ความยั่งยืน และปัจจุบันยังไม่ได้ลงสู่ตลาด Mass มากนัก) เราปรับราคาเป้าหมายขึ้น 31% มาอยู่ที่ 15.50 บาท


ธุรกิจสุขภาพและความงามมีโอกาสเติบโต 600% ในปีนี้

RS คาดหวังรายได้จากธุรกิจสุขภาพและความงามจะเติบโตและกลายมาเป็นส่วนที่มีนัยยะสำคัญของรายได้รวม โดย RS ตั้งเป้ายอดขายจากธุรกิจดังกล่าว เติบโต 600% มาอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาทในปีนี้, 2.5 พันล้านบาทในปี 2561, และ 4 พันล้านบาทในปี 2562(หากเป็นไปตามเป้าหมาย สัดส่วนรายได้จากธุรกิจสุขภาพและความงามจะมากกว่ารายได้จากธุรกิจมีเดียในปี 2562) บริษัท มีแผนจะออก SKUs ใหม่อีก 12 รายการในช่วงที่เหลือของปีนี้ และมีแผนเพิ่มยอดขายออนไลน์เพิ่มเติม โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายออนไลน์ที่ 120 ล้านบาท
ในปีนี้

ผลประโยชน์จากการผนึกกำลังระหว่างสื่อในมือและผลิตภัณฑ์สุขภาพและเสริมความงาม

RS ส่งโฆษณาผลิตภัณฑ์ของบริษัทผ่านทางช่อง 8 ในเวลาที่ต้นทุนค่าเสียโอกาสไม่สูงนัก(ไม่ใช่ช่วงไพรม์ไทม์) ซึ่งส่งผลให้ทั้งธุรกิจมีเดียและธุรกิจสุขภาพและความงามได้ประโยชน์ ยอดขายของธุรกิจสุขภาพและความงาม ส่วนมากมาจากการขายผ่านโทรศัพท์ โดยมีปัจจัยหนุนจากการโฆษณาทางโทรทัศน์ อีกทั้ง RS สามารถใช้ฐานข้อมูลของลูกค้าในมือในการกระตุ้นยอดขายได้ ปัจจุบันบริษัทมีฐานข้อมูลลูกค้ากว่า 2.4 แสนราย ซึ่งเติบโตประมาณ 3-4 หมื่นรายต่อเดือน และมีลูกค้าเดิมกลับมาซื้อของประมาณ 30% ศูนย์บริการลูกค้าปัจจุบันของบริษัทรองรับสายเข้าได้ 95% และลูกค้าสั่งสินค้า ประมาณ 65% ของสายเรียกเข้า ในด้านของต้นทุน RS มีต้นทุนต่ำกว่าบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมทั้งด้านค่าใช้จ่ายทางการตลาดผ่านช่องมีเดียและด้านค่า
เช่าพื้นที่

ปรับประมาณการกำไรขึ้น – และยังมีอัพไซด์อีก

เราได้ปรับประมาณการรายได้จากธุรกิจสุขภาพและความงามในไตรมาส 2/60 ขึ้นจาก 200-220 ล้านบาทมาอยู่ที่ 300 ล้านบาท(84 ล้านบาทในเดือน เม.ย. และ 100 ล้านบาทในเดือน พ.ค.) ดังนั้น เราจึงปรับประมาณการรายได้จากธุรกิจสุขภาพและความงามปี 2560 ขึ้นจาก 700 ล้านบาทมาอยู่ที่ 1 พันล้านบาท (ยังต่ำกว่าเป้าหมายบริษัทที่ 1.2 พันล้านบาท) อีกทั้งเราปรับประมาณ การอัตรากำไรสุทธิของธุรกิจดังกล่าวขึ้นจาก 20% มาอยู่ที 25% (บริษัทตั้งเป้าที่ 30-35%) เรามองว่ายังมีอัพไซด์ต่อประมาณการอีก หากมองธุรกิจสุขภาพและความงามในกรณีดีที่สุด กล่าวคือบริษัทมีรายได้จากธุรกิจดังกล่าว 1.2 พันล้านบาท และอัตรากำไรสุทิ 35%(คิดจากเป้าหมายบริษัท) จะมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรสุทธิปัจจุบันของเราอีก 59% (กำไรสุทธิมาอยู่ที่ 460 ล้านบาท) และราคาเป้าหมายจะปรับขึ้นเป็น 19.5 บาท (ดูรูป 7)