เตรียมสอบเส้นทางการเงินผู้ใหญ่บ้าน ล่าปมสังหารโหด

จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คนร้ายเป็นชาย 6-7 คน ใช้ยานพาหนะ 2 คัน แต่งกายชุดลายพรางคล้ายทหารพร้อมอาวุธครบมือ บุกบ้านเลขที่ 14/3 หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก ซึ่งเป็นบ้านของ นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก ก่อนจ่อยิงศีรษะทุกคนในบ้านจนมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 8 คนและบาดเจ็บอีก 3 ราย หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ศชต. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ส. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. ลงพื้นที่สืบสวนด้วยตนเอง ขณะเดียวกันทางผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. จัดกำลังชุดสืบสวนระดับพระกาฬ นำโดย พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5.บก.ป. พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา พ.ต.ท.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ พ.ต.ท.ชัยฎิภูมิ อำนวยชัย รองผกก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่กก.5 บก.ป. ลงพื้นที่ จ.กระบี่ เพื่อคลี่คลายคดีนี้ด้วยนั้น โดยเบื้องต้นมุ่งปมสังหารไปที่ 4 ประเด็น ได้แก่ ความขัดแย้งเรื่องที่ดินสาธารณะ ความขัดแย้งเรื่องสร้างโรงโม่หิน ปมยาเสพติด และเรื่องชู้สาว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม มีรายงานว่า หลังจากเมื่อวานนี้ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และชุดทำงานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุสังหารโหดด้วยตนเอง ซึ่งหลังจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนวางแนวทางเพื่อคลี่คลายคดี พร้อมแบ่งงานชุดสืบสวน โดยให้บูรณาการกำลังในการติดตามตัวคนร้าย พร้อมกับลงพื้นที่แสวงหาพยานบุคคล ผู้เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี อย่างละเอียด เพื่อหาร่องรอยเบาะแสที่จะสาวไปถึงตัวกลุ่มคนร้าย

ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้รอดชีวิต ซึ่งเป็นญาติของผู้ใหญ่บ้าน และพยานปากสำคัญได้ให้การกับทางชุดสืบสวนว่ากลุ่มคนร้ายมีทั้งหมด 6 คน โดยเข้ามาตั้งแต่ช่วง 5 โมงเย็นทันทีที่เข้ามาได้แบ่งกระจายกำลังกันเข้ามาคุมคนในบ้าน 4 คน ส่วนที่เหลืออีก 2 คนคอยคุมเชิงอยู่ด้านนอก กระทั่งเวลาประมาณเกือบ 3 ทุ่ม นายวรยุทธได้เดินทางกลับเข้าบ้าน ก่อนที่จะถูกคุมตัวแล้วได้พูดคุยกับทางคนร้ายคล้ายกับเจรจาเรื่องสำคัญ จนสถานการณ์เริ่มตึงเครียด จนเวลาประมาณ 5 ทุ่ม คนร้ายได้ลงมือทยอยยิงญาติพี่น้องทีละคน จนมาถึงหญิงสาวคนนี้เคราะห์ดีถูกยิงเฉี่ยวหู ด้วยความตกใจจึงช็อคหมดสติ มารู้ตัวอีกทีคนร้ายยังไม่ไปไหนเลยจำเป็นต้องแกล้งตายเพื่อเอาชีวิตรอด แถมพยานปากเอกให้เบาะแสว่าหลังคนร้ายก่อเหตุยิงคนในบ้านเสร็จได้ออกไปคุยโทรศัพท์ที่หน้าบ้านเพื่อรายงานผลกับนายจ้าง ก่อนนำรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กค 533 จ.กระบี่ ของเจ้าของบ้านไปด้วย อย่างไรก็ตามมอบหมายให้ชุดสืบสวน สภ.อ่าวลึก จัดกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยพยานปากสำคัญไว้แล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนได้กระจายกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาเส้นทางหลบหนีของคนร้าย รวมทั้งหารถยนต์โตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กค 533 จ.กระบี่ ที่เป็นพาหนะที่คนร้ายได้นำไปด้วย ซึ่งสาเหตุมาจากพยานปากสำคัญที่รอดชีวิต ได้ให้การว่า โดยปกติทางผู้ใหญ่บ้านจะเก็บของสำคัญหลายอย่างไว้กับตัวและภายในรถ ซึ่งเชื่อว่าในรถยนต์ดังกล่าวอาจมีสิ่งของสำคัญที่กลุ่มคนร้ายต้องการ สอดคล้องกับที่เกิดเหตุภายในบ้านที่มีการรื้อค้นเพื่อหาสิ่งของทรัพย์สินบางอย่าง โดยหลังจากนี้เตรียมประสานตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ใหญ่บ้านเพื่อหาความชัดเจน

รายงานข่าวแจ้งอีกว่าสำหรับประเด็นสังหารในครั้งนี้ ในที่ประชุมชุดสืบสวนได้พุ่งปมให้น้ำหนักไปที่สองประเด็นสำคัญ คือเรื่องความขัดแย้งเรื่องสร้างโรงโม่หินและเรื่องยาเสพติด โดยเรื่องความขัดแย้งเรื่องสร้างโรงโม่หินมีการร้องเรียนการสร้างโรงโม่หิน ซึ่งมีกรณีพิพาทกันและทวีความรุนแรงมากว่า 1 เดือน ซึ่งประเด็นนี้มีข้อมูลว่าทางผู้ใหญ่บ้านให้การสนับสนุน โรงโม่หินแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 2 ต.บ้านกลาง โดยมีเรื่องผลประโยชน์ 50 ล้านบาท เรื่องการทำประชาพิจารณ์ แต่กลับถูกชาวบ้านคัดค้าน จนมีการฟ้องร้องกันอยู่ในขณะนี้

ในส่วนของประเด็นเรื่องยาเสพติดนั้น เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีเรื่องยาเสพติดเข้ามาประกอบกับผู้ตายเป็นคนพูดจาโผงผาง จึงต้องตรวจสอบว่าทางผู้ใหญ่บ้านไปขัดเรื่องนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตามในส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมต้องฆ่ายกครัวนั้น ชุดสืบสวนคาดการณ์ตามคำให้การของพยานผู้รอดชีวิต ว่ากลุ่มคนร้ายได้ใช้ปืนจ่อแล้วเกิดปืนลั่น ซึ่งกลุ่มคนร้ายคิดว่าเสียชีวิต จึงอาจเป็นสาเหตุจูงใจอีกข้อหนึ่งที่ทำให้ต้องฆ่ายกครัว เพื่อไม่ให้สาวมาถึงตัว อย่างไรก็ดีชุดสืบสวนได้มีการนำแผนประทุษกรรมของกลุ่มคนร้ายมาตรวจสอบอย่างละเอียดว่า กลุ่มคนร้ายเป็นกลุ่มใด โดยขณะนี้ได้พุ่งเป้าไปที่ซุ้มมือปืนหรือกลุ่มคนร้ายในพื้นที่ จ.ตรัง จ.พัทลุง และจ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับนำคดีที่เกิดขึ้นในลักษณะใกล้เคียงมาตรวจสอบหาความเชื่อมโยง

นอกจากนี้ประเด็นอื่นๆที่มีการสันนิษฐาน ชุดสืบสวนยังคงไม่ตัดทิ้งแต่ให้น้ำหนักไปที่สองประเด็นขั้นต้น ซึ่งปมเรื่องชู้สาวก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งหลังพบข้อมูลว่านายวรยุทธมีความสนิทสนมลึกซึ้งกับเศรษฐีนีชาวอ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ถึงขนาดที่ว่าซื้อบ้านและรถให้นายวรยุทธ ซึ่งหลังพบข้อมูลได้สั่งการให้ชุดสืบสวนกระจายกำลังไปที่บ้านพักที่อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี และในพื้นที่จ.กระบี่ กระทั่งชุดทำงานของพล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ส.ได้เชิญตัวมาสอบถาม เพื่อหาความเชื่อมโยงในหลายประเด็นเกี่ยวกับปมการสังหารยกครัวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือมีข้อมูลเบาะแสอะไรบ้างที่สามารถนำไปสู่การขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุ
เบื้องต้นพบว่า เศรษฐีนีดังกล่าวมีความสนิทสนมกับผู้ตายมาหลายปี และมีไปมาหาสู่กันหลายครั้ง รวมทั้งได้ประสานข้อมูลประวัติของกลุ่มผู้ตาย โดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้าน และเศรษฐีนีดังกล่าว ว่ามีการขึ้นบัญชียาเสพติดหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นไม่พบข้อมูล ทั้งนี้เพื่อคลายปมสงสัยหลายอย่าง