กรุงไทยจัดชั้น 'เอิร์ธ' เอ็นพีแอล

กรุงไทยจัดชั้น 'เอิร์ธ' เอ็นพีแอล

กรุงไทยจัดชั้น “เอิร์ธ”เอ็นพีแอล ฉุดไตรมาส2อ่วมตั้งสำรองเต็ม100% ยอมรับหลักประกันเป็น “หุ้น” ไม่คุ้มมูลหนี้1.2หมื่นล้าน

ธนาคารตั้งสำรองหนี้เอิร์ธเต็มจำนวน1.2หมื่นล้านบาท หลังผิดนัดชำระหนี้และถูกนับเป็นเอ็นพีแอล ยอมรับกระทบผลประกอบการไตรมาส2ลดลง หันปรับการดูแลพอร์ตสินเชื่อเป็นเชิงรุก เพิ่มความระมัดระวัง หวังรักษาเอ็นพีแอลปีนี้ไม่ให้เกิน4.8% พร้อมทบทวนเป้าสินเชื่อยอมรับปีนี้โตไม่ถึง6%

นายผยง ศรีวนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) KTB เปิดเผยว่า ธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้ของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือEARTH เต็มจำนวน100% หรือตั้งสำรองไป1.2 หมื่นล้านบาทในช่วงไตรมาส2ที่ผ่านมา หลังธนาคารได้ผิดนัดชำระหนี้ และถือเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล (NPL) แล้ว ส่วนหลักประกันที่มีอยู่ แทบจะไม่มีค่า เพราะเป็นหุ้น โดยยอมรับว่าการตั้งสำรองดังกล่าวกระทบกับผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงไตรมาส2ของปีนี้

“หนี้ของบริษัทเอิร์ธถือว่าเป็นเอ็นพีแอลแล้วตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ธนาคารจึงได้ตั้งสำรองเต็มจำนวน ซึ่งแม้ว่าผลประกอบการจะได้รับผลกระทบทั้งจากการตั้งสำรอง รวมถึงการปรับลดดอกเบี้ยรายย่อยลงเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี แต่ก็ยังโอเคอยู่ ในส่วนของเอ็นพีแอลปีนี้ธนาคารก็จะพยายามรักษาให้อยู่ในระดับที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 4.8%”

ในส่วนของการแก้ปัญหานั้น ธนาคารอยู่ระหว่างการรอข้อมูลที่ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้มีคำสั่งให้บริษัทเอิร์ธตั้งผู้สอบบัญชีพิเศษขึ้นมา ซึ่งโดยความตั้งใจธนาคารก็ยังต้องการให้บริษัทดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ในส่วนที่ควรจะดำเนินการต่อ เพราะเชื่อว่าธุรกิจยังเดินต่อไปได้ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหาร และธนาคารก็คงไม่สามารถให้กู้เพิ่มได้ เพราะเป็น เอ็นพีแอล นอกจากนี้ธนาคารกรุงไทยไม่ใช่เจ้าหนี้เพียงรายเดียวของบริษัทเอิร์ธ และยังมีเจ้าหนี้รายอื่นด้วย 

กรณีของบริษัทเอิร์ธแล้ว ยังไม่มีรายอื่นที่เป็นเอ็นพีแอลก้อนใหญ่ขนาดนี้ แต่ก็มีการเฝ้าระวัง และดูข้อมูลในเชิงลึก เช่นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อนที่จะปล่อยเงินกู้ให้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เราก็ดูข้อมูลว่าโครงการอยู่ในพื้นที่ไหน ความต้องการที่มีเป็นความต้องการเทียมหรือไม่ เราติดตามหมด โดยใช้ระบบEarly Warning Systemsซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด

“ธนาคารยังคงใช้รูปแบบบริหารสินเชื่อด้วยความระมัดระวัง พอร์ตที่มีโอกาสเป็นหนี้ด้อยคุณภาพเราก็ติดตามอย่างใกล้ชิด และใช้ความระมัดระวังสูง รวมถึงได้มีการปรับวิธีการในหลายเรื่องๆ ทั้งในเชิงนโยบาย การบริหารพอร์ตอย่างรอบคอบ ระมัดระวังและทำในเชิงรุกมากขึ้น”

ในส่วนหนี้ของบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด(มหาชน) หรือAQ นั้น ยังอยู่ในกระบวนการของศาล และอยู่ระหว่างการเพิ่มทุน ซึ่งเท่าที่ทราบเพิ่มทุนไม่ได้ทั้งหมด แบงก์ก็คุยกันอยู่ โดยบริษัทมีหนี้อยู่กับธนาคารประมาณ8พันล้านบาท โดยมีที่ดินเป็นหลักประกัน แต่หนี้ที่ศาลระบุมีประมาณ1หมื่นล้านบาท

เขากล่าวต่อว่า ธนาคารจะมีการทบทวนเป้าหมายสินเชื่อในปีนี้ใหม่ จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่4-6% ซึ่งในส่วน6%นั้นคงเป็นไปไม่ได้แล้ว จากภาวการณ์แข่งขัน และภาพรวมของตลาดที่ไม่ได้เติบโตมากนัก ขณะที่ธนาคารก็ไม่ต้องการลดคุณภาพเพื่อสร้างการเติบโต อย่างไรก็ตามธนาคารจะพยายามผลักดันการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ให้ได้4%แต่ก็ยอมรับว่ายากและเหนื่อย

“สินเชื่อปีนี้แข่งรุนแรง โดยแข่งขันกันแย่งลูกค้าเก่า โดยเฉพาะสินเชื่อบ้าน ซึ่งโดยปกติช่วง2-3ปีแรกจะขาดทุนอยู่แล้ว เพราะให้อัตราดอกเบี้ยต่ำ พอครบ3ปีก็รีไฟแนนซ์ แย่งลูกค้ากัน ซึ่งถ้าแข่งขันกันจนต้องขนาดทุน ธนาคารก็คงไม่ทำ”

การเคลื่อนไหวราคาหุ้นแบงก์กรุงไทย วานนี้(12ก.ค.)ปิดตลาดที่ราคา 19 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.53%มูลค่าการซื้อขายรวม 841ล้านบาท