"บุญสร้าง" มั่นใจ ปฏิรูปโครงสร้างตำรวจเสร็จ 9 เดือน พร้อมแบ่งงานคณะอนุกรรมการ เน้นจัดระบบโยกย้ายตำรวจ ปรับปรุงกม.บังคับใช้ปี 61 หวังสมบูรณ์ใน 5 เดือน ออกตัวอาจมีการต่อต้าน
ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถ. แจ้งวัฒนะ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานกรรมการคณะปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) แถลงข่าว ภายหลังการประชุมคณะกรรมการเป็นครั้งแรกหลังจากการมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งผลการประชุมว่า เป็นการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการและ กำหนดกรอบเวลา ในการทำงาน คือยึด ขั้นตอน 2 ,3 ,4 โดยแบ่งเป็นการปฏิบัติงานของคณะกรรมการออกเป็น 5 คณะประกอบด้วย
1.คณะอนุกรรมการด้านการบริหารงานบุคคลมี พล.อ.บุญสร้าง เป็นประธาน เน้นงานคณะนี้เป็นสำคัญ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งทำแล้วเสร็จวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ยืนยันว่าเป็นเพียงการสร้างระบบการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ซึ่งยังไม่มีผลกับการโยกย้ายในปีนี้ แต่บังคับใช้ในปี 2561ซึ่งจะออกมาเป็นกฎหมาย ส่วนจะมีการระบุถึงหลักความอาวุโส ผลการทำงาน ถึงจะไปดำรงตำแหน่งใดๆได้นั้น ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ให้รอคณะอนุกรรมการฯพูดคุยกันก่อน
2.คณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายและระบบการสอบสวนคดีอาญา มีนายธานิศ เกศวพิทักษ์อดีตรองประธานศาลฎีกาเป็นประธาน จะรับผิดชอบในส่วนการแยกงานสืบสวนสอบสวน
3.คณะอนุกรรมการด้านหน้าที่อำนาจและภารกิจของตำรวจ มีนายมนุชญ์ วัฒนโกเมร อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน
4.คณะอนุกรรมการด้านรับฟังความคิดเห็น มีพล.อ.อ. อิทธิพร ศุภวงศ์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศเป็นประธาน โดยจะเริ่มทำงานตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป จนครบ 9 เดือน โดยเปิดรับข้อมูลทุกช่องทาง
5.คณะอนุกรรมการ ด้านวิชาการมี ศ.ดร.ศุภชัย ยาวะประภาษ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นประธาน และศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ ทำหน้าที่เป็นโฆษกคณะกรรมการ
ทั้งนี้คณะกรรมการปฏิรูปจะเข้าไปเป็นคณะอนุกรรมการในแต่ละคณะตามความสมัครใจส่วนอนุกรรมการท่านอื่นๆและเลขานุการของคณะอนุกรรมการนั้น ประธานคณะอนุกรรมการจะพิจารณาคัดเลือกและแต่งตั้งต่อไป สำหรับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)จะมอบหมายให้หน่วยงาน ที่รับผิดชอบในด้านนั้นๆ ของสตช.ทำหน้าที่เป็นเลขานุการช่วยเหลือการปฏิบัติงานของแต่ละอนุกรรมการ
พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ส่วนแผนการดำเนินงานได้วางแนวทางการประชุมไว้ในระยะแรกจะประชุมสัปดาห์ละสองวันพร้อมทั้งได้กำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการและกิจกรรมที่ต้องปฏิบัติในรอบเก้าเดือนแรกจนในช่วงระยะเวลาว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งในเรื่องต้นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นคือการแต่งตั้งโยกย้ายและระบบงานสอบสวนส่วนเรื่องอื่นๆจะพิจารณาเป็นลำดับต่อไป
"ในช่วง 2 เดือนแรกน่าจะเห็นเป็นรูปร่าง คือนำเรื่องต่างๆมาศึกษา ซึ่งคาดว่าจะได้ทำข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น และ 3 เดือนถัดไป ลงมือปรับแก้กฎหมาย และเสนอเป็นกฎหมายเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติก่อนจะเข้าสู่ระยะที่ 4 รับฟังความคิดเห็น แต่เราคาดหวังว่าในช่วง 5 เดือนแรก ทุกอย่าง ต้องเสร็จสมบูรณ์ ผมเชื่อมั่นว่า จะใช้เวลา 9 เดือนทำเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจให้แล้วเสร็จตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ส่วนจะมีข้อขัดข้อง หรือแรงต่อต้านมากน้อยแค่ไหน เป็นอีกเรื่อง" พล.อ.บุญสร้าง กล่าว