จับหนุ่มลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ขายผ่านทางเฟซบุ้ก

จับหนุ่มลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ขายผ่านทางเฟซบุ้ก

เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ง ว่ามีการลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ผ่านสื่อออนไลน์เฟซบุ๊ก จึงได้บูรณาการเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น พบว่ามีการนำสัตว์ป่ามาเลี้ยงขังกรงไว้จริง จึงได้จับกุมพร้อมทั้งตรวจสอบแหล่งที่มาของสัตว์ป่าทั้งหมด

พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี  รองผบช.น.  พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ดร.ดาญจนา นิตยะ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ นายภิราเดช ปาละสุวรรณ เจ้าหน้าที่ บก.ปทส.บช.ก. และชุดเหยี่ยวดง ร่วมแถลงข่าว จับกุม น.ส.วชิรากรณ์ หมู่เจริญ อายุ 21 ปี ที่บ้านเลขที่ 148/1350 ซ.รามคำแหง 190 แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ พร้อมของกลาง ตัวนาคเล็กเล็บสั้น 8 ตัว นางอาย 2 ตัว นกเค้าจุด 2 ตัว พร้อมกรงขังและกล่องพลาสติก และจับกุมนายพนม ชุ่มอนงค์ อายุ 31 ปี ที่บ้านเลขที่ 95 ถนนพระราม2 ซอย 20 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ พร้อมของกลาง นางอาย 1 ตัว นกเค้าใหญ่พันธุ์สุมาตรา 1 ตัว นกแก๊ก หรือนกแกง 1 ตัว นกขุนทอง 1 ตัว

พล.ต.ต.สุธีร์ เผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ผ่านสื่อออนไลน์เฟซบุ๊ก จึงได้บูรณาการเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น พบว่ามีการนำสัตว์ป่ามาเลี้ยงขังกรงไว้จริง จึงได้จับกุมพร้อมทั้งตรวจสอบแหล่งที่มาของสัตว์ป่าทั้งหมด

ด้าน พ.ต.อ.ธีระชัย เปิดเผยว่า สัตว์ป่าดังกล่าวส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่ป่าดงดิบ ทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีการลำเลียงขึ้นมายังพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยใส่กล่องมัดมือมัดเท้าและขนส่งโดยใช้รถทัวร์ ซึ่งพบว่ามีกระบวนการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามหากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนิดคดีในข้อหาลักลอบค้าสัตว์ป่า ตามพ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่า

จากการตรวจสอบพบว่า สัตว์ป่าทั้งหมดมีราคาในท้องตลาดแตกต่างกันไป อาทิ นางอาย ราคาตัวละ 2,500 บาท นกเงือก ราคา 7,500 บาท นกเค้าใหญ่พันธุ์สุมาตรา ซึ่งเป็นนกที่มีเพียงตัวเดียวในประเทศไทยโดยนำเข้ามาจากประเทศอินโดนิเซีย ขายในราคา 11,000 บาท เบื้องต้นควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายพร้อมแจ้งข้อหา มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2534 ส่วนสัตว์ป่าที่ยึดได้จะนำส่งกรมอุทยานเพื่อดูแลพักฟื้นก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

“การลักลอบค้าสัตว์ป่าและเลี้ยงสัตว์ป่า เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งมีความผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่า ปี 2534 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้ใดพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าวสามารถแจ้งได้ที่เบอร์ 1362 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเวลา” พล.ต.ต.สุธีร์ กล่าว