พ่วง 22 ล้อหลุดโค้งปราบเซียนตกทางพิเศษตาย 1 เจ็บ 1

พ่วง 22 ล้อหลุดโค้งปราบเซียนตกทางพิเศษตาย 1 เจ็บ 1

รถพ่วง 22 ล้อหลุดทางโค้งปราบเซียนถนนวงแหวนเบี่ยงขึ้นมอเตอร์เวย์จากบางนา-ตราด ตกทางพิเศษสูง 5 เมตร ตัวรถพังยับเยินตาย 1 เจ็บ 1 ด้านกู้ภัยทางด่วนเผยเกิดเหตุซ้ำซากในจุดเดิม

ร.ต.อ.พศวัฒน์ พัตพัน รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้าทำการตรวจสอบอุบัติเหตุรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ 22 ล้อ พุ่งหลุดออกจากทางโค้ง บนถนนวงแหวนแยกจากถนนสายบางนา-ตราด ด้านฝั่งขาเข้า กทม. มุ่งหน้าขึ้นสู่ถนนสาย 7 มอเตอร์เวย์ กม. 39 ก่อนตกลงไปยังที่พื้นดินด้านล่าง จากความสูงประมาณ 5 เมตร จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 1 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย

ที่เกิดเหตุ พื้นที่ ม.5 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง พบรถยนต์บรรทุกพ่วงยี่ห้อ ฮีโน่ หัวสีขาว ทะเบียนหัวลาก 62-5597 กทม. ทะเบียนหางพ่วง 62-6016 กทม. ตกลงไปอยู่ที่ด้านล่าง สภาพส่วนหัวลากพังยับเยินจนหัวเก๋ง เครื่องยนต์ และถังก๊าซ CNG หรือ เอ็นจีวี หลุดออกมาจากตัวถังรถ ขณะที่ตู้คอนเทรนเนอร์ซึ่งภายในบรรทุกปุ๋ยมาจนเต็มคันนั้น อยู่ในสภาพล้มนอนตะแคง ผนังตู้ฉีกขาดจนมองเห็นสินค้าที่บรรจุอยู่ด้านใน และยังมีรอยยุบบุบโดยรอบคัน

ทราบชื่อคนขับ คือ นายธงชัย สมหวัง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.16 ต.หนองปลิง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ศีรษะแตกบริเวณหน้าผาก และมีรอยฟกช้ำแผลถลอกตามร่างกาย ตกลงไปอยู่ในป่าหญ้าพร้อมกับตัวรถ ขณะเดียวกันที่พื้นถนนบริเวณขอบไหล่ทางใกล้กับราวสะพานของถนนวงแหวนยกระดับ มีร่างของผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน ทราบชื่อต่อมา คือ นายพุธสิทธิ์ ศรีสุข อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ม.17 ต.หนองเต็ง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ อยู่ในสภาพคอหัก กรามแตกซึ่งคาดว่าขณะเกิดเหตุผู้ตายถูกแรงเหวี่ยงของตัวรถ เหวี่ยงจนร่างกระเด็นออกมาตกอยู่ที่ด้านนอกตัวรถ ในขณะที่ตัวรถกำลังพุ่งชนเข้ากับราวสะพานจนตัวรถพลิกตะแคงทับร่าง ก่อนกลิ้งตกลงไปยังที่พื้นดินด้านล่าง เนื่องจากที่ขอบราวสะพานนั้น มีร่องรอยของการชนจนพังได้รับความเสียหายเป็นระยะทางยาวถึงกว่า 25 เมตร

จากการสอบถาม นายศรัญญู สระมูล อายุ 25 ปี พนักงานขับรถบรรทุกพ่วงของ บริษัท ซัมมิทโลจิสติกส์ จำกัด เพื่อนร่วมบริษัทเดียวกันกับรถคันที่เกิดอุบัติเหตุ เล่าว่า นายธงชัย เพิ่งเข้ามาทำงานเป็นคนขับรถในบริษัทได้เพียงประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ส่วนนายพุธสิทธิ์ นั้น เพิ่งเข้ามาสมัครเข้าทำงานเมื่อช่วงเช้าวานนี้ และเพิ่งมากับรถคันนี้เป็นเที่ยวแรก ก่อนที่จะมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สำหรับสินค้าที่บรรทุกอยู่ในตู้คอนเทรนเนอร์นั้น เป็นปุ๋ย โดยได้ไปรับสินค้ามาจากท่าเทียบเรือน้ำลึกแหลมฉบัง เพื่อจะนำไปส่งยังที่คลังสินค้า ICD เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ซึ่งทางโค้งบริเวณนี้มักเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง เพราะทางโค้งไม่เอียงรับกับน้ำหนักของตัวรถ เวลารถบรรทุกหนักๆ ขับขึ้นมา น้ำหนักบรรทุกจะถูกเหวี่ยงออกไปทางด้านข้างซ้ายของตัวรถ จนทำให้ตัวรถเอียงพลิกตะแคงคว่ำ หรือหลุดโค้งออกไป เนื่องจากความลาดเอียงของถนนไม่รับกับน้ำหนักรถ หากขับขึ้นมาด้วยความเร็วหรือแรงเกิน แต่ถ้าหากขับขึ้นมาอย่างช้าๆ ก็จะทำให้รถขับขึ้นไม่ไหว หรือขึ้นบนวงแหวนได้ยากลำบาก หากรถมีน้ำหนัก จึงต้องอาศัยแรงส่งจากความเร็ว เพื่อให้ตัวรถขึ้นมาได้ง่าย แต่ถ้าหากคนขับไม่ชำนาญเส้นทาง ก็จะมีโอกาสที่จะหลุดโค้งลงไปได้ง่าย จึงควรจะค่อยๆ ขับขึ้นมาจะดีกว่าและปลอดภัยกว่า

ด้าน นายกำพล พวงแก้ว อายุ 32 ปี จนท.หน่วยกู้ภัยทางด่วนมอเตอร์เวย์ แขวงทางหลวง กรมทางหลวง กล่าวว่า จุดเกิดเหตุบริเวณวงแหวนต่างระดับเข้ามอเตอร์เวย์ กม. 39 แห่งนี้ มักจะเกิดอุบัติเหตุลักษณะแบบนี้ขึ้นกับรถบรรทุกพ่วงอยู่บ่อยครั้ง เท่าที่ตนทำงานอยู่ที่จุดนี้มาประมาณ 3 ปี มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับรถบรรทุกพ่วงบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ลักษณะนี้จำนวน 4 ครั้งแล้ว เฉพาะในวันที่ตนมาเข้าเวรเท่านั้น และน่าจะมีอุบัติเหตุในทำนองเดียวกันเกิดขึ้นที่บริเวณจุดนี้ในวันที่ตนไม่ได้มาเข้าเวรอีกหลายครั้ง เนื่องจากบริเวณทางขึ้น กม.39 นี้ มีความลาดเอียงที่รถบรรทุกหนักขับขึ้นได้ยากลำบาก เพราะต้องใช้แรงส่งมากในรถบรรทุกหนัก หากขับด้วยความเร็วเกิน 60 กม.ต่อ ชม. ตัวรถก็จะหลุดออกจากทางโค้ง แต่ถ้าหากขับช้ามาก รถก็จะขึ้นทางโค้งเข้าสู่วงแหวนไม่ไหว จึงทำให้รถบรรทุกพ่วงบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ มาประสบอุบัติเหตุตรงบริเวณจุดเดียวกันนี้อยู่เป็นประจำหลายครั้งแล้ว