มิงกาละบา"อิต่อง(ปิล็อก)"
การเที่ยวสักแห่งต้องมีจุดหมายและแน่นอนว่า เหตุผลของการเที่ยวก็ต่างกันออกไป ส่วนเราเหรอก็เหมือนกับคนอื่นๆ แหละมั้งที่หอบความเศร้า หิ้วความทุกข์ บรรจุความเหงาใส่กระเป๋าเป้เดินทาง ซึ่งรอบนี้เราเลือกที่จะไปใกล้ๆ หน่อยคือ "ปิล็อก อิต่อง จ.กาญจนบุรี
เราเตรียมตัวไม่นานคิดจะไปก็ไป ทิ้งความวุ่นวายที่ให้คั่งค้างไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ตอนแรกก็จะเอาของไปน้อยๆ ดันยังเป็นบ้าหอมฟางเหมือนเดิม อย่างที่ใครๆ รีวิวกันว่า มาปิล็อก 2 วัน 1 คืน ก็ไปได้เลยทำตาม
เราใช่เวลาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ซึ่งจะมีน้อยครั้งเป็นวันเดินทาง ตั้งใจตื่นตี 3 นั่งรถมายังหมอชิด เพื่อขึ้นรถ รีวิวเขียนบอกว่าต้องขึ้นรถตอนตี 5.00 น. แต่นั่นแหละเขาไม่บอกว่าจะขึ้นรถทัวร์ หรือตู้ แต่เวลาตี 5 มันมีแค่รถตู้ป่ะ เลยเดินมาที่ชาลาที่ 3 เพื่อมาขึ้นรถ 120 บาท ด้วยความสงสัยว่า คิวรถตู้กาญจนบุรีจากกทม.มีที่ไหนอีก พนง.ก็บอกว่า จริงๆ สายใต้เก่าก็มี
เมื่อถึง บขส.กาญจนบุรี ก็รีบวิ่งไปหาคิวรถตู้ที่จะไปทองผาภูมิทันที เราถึงตลาดทองผาภูมิประมาณ 10.30 น.มั้ง จากนั้นก็รอรถสองแถวสีเหลืองที่มีป้ายบอกไป ทองผาภูมิ-อิต่อง แล้วก็กระโดนขึ้นอย่ารอช้า
วันที่เดินทางไปมีฝนตก แบบว่าตกจริงจัง ตกแบบขอให้หยุดบ้างเถอะ ระยะ 399 โค้ง เราถึงจุดหมายประมาณเที่ยงนิดๆ เริ่มหิว ฝนก็ตก ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ห้องพักยังไม่มี ( ควรจองที่พักก่อน ) เดชะบุญเราได้ห้องว่างที่ นักท่องเที่ยวจองไว้แล้วยกเลิก เป็นห้องพักที่ดีเลยคืนละ 800 บาท มีทุกอย่างครบยกเว้นแอร์กับน้ำดื่ม แต่แก อากาศมันต่างจากข้างล่าง (กทม.เมืองกาญฯ) อุณหภูมิลดลงหลายองศาเลยซึ่งมันดีมากๆ เราได้ห้องแล้วก็ ไปหาที่กินข้าวมีร้านดังชื่อเจ้นี แต่ไม่กินจ้า แบบหาอะไรรองท้องไปก่อนด้วยก๋วยเตี๋ยวผัด ร้านติดกัน รสชาติโอเคอร่อยนะ
16.00 น. เรากับเพื่อนใหม่อีก 5 คน ขับมอไซต์ฝ่าดงหมอกขึ้นเนินช้างศึก เป็นจุดชมวิวที่เก๋ และมีพี่ตำรวจหรือทหารประจำการอยู่ ได้รูปมาด้วยนาจา แต่อย่างที่ว่าฝนตกหมอกหนามากเลยวิวไม่สวยเท่าวันมีแดด แต่โอเค ที่มีกิจกรรมทำ จากนั้นที่พลาดไม่ได้ก็คือเหมืองเกาปิล็อก คือขนลุกแบบว่าเห้ยครั้งอดีตฝนตกๆ สยองซึ่งมีความฮิปแบบเปียกๆ เที่ยวเสร็จถึงเวลา กินจริงจัง คราวนี้ร้านดังประจำอิต่องได้สูบเงินจากกระเป๋าแล้ว บอกเลยใครชอบรสกลางๆ ก็ทานได้เลยหละจ้า และโปรแกรมเดินทางมาปิล็อก ก็สำเร็จทุกคนแยกย้ายนอน
เสียงเพลงเซลเลอร์มูนดังขึ้นไม่นาน ก็ทำให้เราตื่นจากภวังค์ มันคือเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ตอน ตี 5.30 นาที เราตื่นมาแต่งตัว เปิดเพลงฟังไปด้วย เพราะอุส่าห์แบกลำโพงตัวน้อยมาขึ้นเขาด้วย 6.40 น. คือเวลานัดของพวกเรา เพราะตั้งใจก่อนจะลงเขาไปด้วยรถเที่ยวสุดท้ายคือ 8.00 น. ต้องตักบาตรก่อนเวลา 7.00 น. พระ 2 รูป สามเณร 2 รูป กับอาหารชุดที่เตรียมไว้ มีข้าวซอย 30 บาท ขนม 10 บาท น้ำเปล่า 6 บาท ประมวลก็ได้ราคา ชุดละ 46 บาท เมื่ออาหารทุกถุงลงสู่บาตรพระ เสียงให้พรก็ดังขึ้นความอิ่มทั้งกายใจก็ทำให้อาการง่วงหายไป และพร้อมที่จะโบกมือลา
8.00 น. นิดๆ เราเดินทางกลับด้วยรถสองแถวแบบเดิมในราคา 70 บาท เพื่อนๆ ทุกคนต่างพูดถึงความแฮปปี้ของ อิต่องก่อนที่จะเผลอหลับกันไปแทนที่อากานเมารถ ถึง อ.ทองผาภูมิเวลา 10.00 น. ทุกคนแยกย้ายความรู้สึกอย่าได้กล่าว ผมเดินทางไปขึ้นรถทัวร์ 99 ในราคา 169 บาท ซึ่งมุ่งตรงไปยังสถานีขนส่งหมอชิต จุดเริ่มต้นและจุดจบของทริปนี้เท่านั้น
....ใกล้ กทม. เดินทางด้วยความท้าทาย เป้าหมายพิชิต 399 โค้ง สู่อาณาจักรแห่งสายหมอก... มันก็เป็นเหตุผลง่ายๆ ที่ทำให้เรา เ ดิ น ท า ง สู่หมู่บ้านอิต่อง(ปิล็อก)
ประมวลภาพประทับใจตลอดทริป(จริงๆมีเยอะมาก)