ป่วนทั้งโรงพัก! ตำรวจบ้านพกปืนลั่นใส่ขาเจ็บ อ้างถูกคนร้ายยิง

ป่วนทั้งโรงพัก! ตำรวจบ้านพกปืนลั่นใส่ขาเจ็บ อ้างถูกคนร้ายยิง

ตำรวจบ้านไประงับเหตุผัวเมียทะเลาะกัน อ้างถูกยิง สุดท้ายความจริงเปิดเผยปืนลั่นใส่ขา แต่กลัวความผิด หลังผกก.เคยถูกห้ามตำรวจอาสาไม่ให้พกปืน และปืนที่พกยังเป็นบีบีกันดัดแปลง โกหกเพื่อเอาตัวรอด

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 7 กรกฎาคม ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุ สามีภรรยาทะเลาวิวาทกันที่บ้านในซอยประชาสันติ 7 เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังรับแจ้งทาง พ.ต.ต.ชวเรศวร์ มีมา สวป.ที่กำลังออกตรวจพื้นที่ จึงแจ้งให้ตำรวจเขตงานเมืองทอง ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ นำตำรวจอาสา หรือตำรวจบ้านไประงับเหตุ ต่อมาได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารว่า ตำรวจอาสาที่ออกไประงับเหตุถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่ขา จึงแจ้งวิทยุขอกำลังสนับสนุน จากนั้น พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ รอง ผกก.ป.พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเมธาธรรม นำกำลังออกไปที่เกิดเหตุ

พบนายราชพร นิลเกตุ อายุ 30 ปี ตำรวจอาสาเขตงานเมืองทอง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดบริเวณหน้าขาซ้าย 1 นัด กระสุนฝังใน เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ส่วนสามีภรรยาที่ทะเลาะกัน ได้ปิดบ้านและปิดไฟฟ้ามืด โดย นายอภิสิทธิ์ ทองคำ อายุ 23 ปี ตำรวจอาสาอีกคนที่มาระงับเหตุกับผู้บาดเจ็บ ให้การยืนยันว่า ถูกยิงออกมาจากบ้านที่จะมาระงับเหตุผัวเมียทะเลาะวิวาทกัน หลังเกิดเหตุได้เข้าไปหลบในบ้าน พร้อมกับปิดไฟ เกรงว่าสามีซึ่งมีอาวุธปืน จะจับภรรยาและลูกสาวเป็นตัวประกัน ทำให้ญาติซึ่งอยู่ใกล้บ้านใช้โทรศัพท์ติดต่อกับภรรยาและลูกสาว ซึ่งยืนยันว่าได้ทะเลาะกันจริง แต่ตอนนี้แยกกันอยู่คนละห้อง สามีนอนอยู่อีกห้อง ส่วนภรรยาและลูกสาวนอนอยู่อีกห้อง และพ่อไม่มีอาวุธปืนแต่อย่างใด

หลังจากนั้นตำรวจชุดสวาท ภ.จว.อุดรธานี ตำรวจหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด และฝ่ายต่าง ๆ กว่า 50 นาย พร้อมอาวุธครบมือและเสื้อเกราะกันกระสุน ได้เดินทางมาสมทบ ขณะที่ตำรวจได้เชิญตัวญาติของทั้ง 2 สามีภรรยา มาเพื่อจะให้เกลี้ยกล่อมตัวสามีที่มีอาการเครียดจากปัญหาครอบครัว แต่ญาติ ๆ ยืนยันว่าตัวสามีไม่มีอาวุธปืน และไม่น่าจะจับภรรยาและลูกสาวเป็นตัวประกันแต่อย่างใด แต่มีพยานยืนยันได้ยินเสียงปืนดังมาจากบ้าน ทางตำรวจจึงประชุมกันหาข้อสันนิษฐานว่า ปืนยิงมาจากจุดใด พร้อมกับสอบปากคำนายนายอภิสิทธิ์ฯ ตำรวจอาสาที่อยู่ในที่เกิดเหตุไปพร้อมกัน โดยพบว่าให้การมีพิรุธ ประมาณ 20 นาที และให้ทางตำรวจไปสอบปากคำนายราชพรฯ อย่างละเอียดที่โรงพยาบาล พร้อมขอดูหัวกระสุนปืนที่ยิงถูกขา

จนต่อมาหลังจากผ่านไป 3 ชั่วโมง ทางนายอภิสิทธิ์ฯ จึงยอมสารภาพว่า ความจริงแล้ว นายราชพรฯ ไม่ได้ถูกยิง แต่เกิดจากปืนที่นายราชพรฯ พกติดตัว ที่เป็นปืนบีบีกัน นำมาดัดแปลง ใส่กระสุนขนาด .38 ลั่นใส่ขาตัวเองจนบาดเจ็บ และนายราชพลฯ เกรงว่าจะมีความผิด เพราะ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้สั่งห้ามตำรวจอาสาพกปืน จึงให้ตนนำปืนไปซ่อนไว้ที่บ้าน แต่ตนเห็นว่าเรื่องราวบานปลายใหญ่โต จึงรับสารภาพว่าเกิดจากปืนลั่น

พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เคยพบเห็นนายราชพร ตำรวจอาสาที่บาดเจ็บพกอาวุธปืน จึงได้เรียกมาว่ากล่าวตักเตือน เพราะตำรวจอาสาไม่มีสิทธิพกปืน หากไม่เชื่อฟังปลดออก และดำเนินคดี ซึ่งนายราชพรฯ ก็ได้รับปาก แต่ก็มาเกิดเรื่องจนได้ จึงสั่งให้นายอภิสิทธิ์ฯ ไปนำปืนที่นำไปซุกซ่อนไว้มามอบให้ตำรวจเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับ แจ้งข้อหา นายราชพร “พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป