คาดเงินสะพัดอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษาสูงสุดรอบ6ปี

คาดเงินสะพัดอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษาสูงสุดรอบ6ปี

"หอการค้าไทย" คาดเงินสะพัดช่วงวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา 6,222 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 6 ปี เหตุประชาชนหวังเศรษฐกิจดีขึ้น-วันหยุดยาว 3 วัน

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ได้สำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา พบว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยประเมินว่ามีเงินสะพัดถึง 6,222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าสูงสุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากประชาชนคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงวันหยุดยาว 3 วัน ทำให้มีบางส่วนออกไปท่องเที่ยวมากขึ้น หลังจากที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น จึงทำให้จับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นด้วย หรือมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 5,355 บาท ส่วนใหญ่ขอพรจากพระเพื่อให้มีโชคดี ถูกหวย มีโชคลาภเงินทอง มีเงินเดือนเพิ่มขึ้น

"ในเทศกาลสำคัญทางศาสนา ประชาชนยังคงไปทำบุญมากถึง 91% และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 60.6% ตอบว่าจะใช้เงินเพื่อทำบุญเพิ่มขึ้น หรือเฉลี่ยคนละ 5,355 บาท ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้าที่เฉลี่ยคนละ 4,649 บาท โดยใช้เงินเดือนกับเงินออมมาทำบุญ ทั้งการใส่บาตร ถวายสังฆทาน ทำทาน บริจาค ถวายเงิน ถวายของ ไม่เล่นการพนัน ละเว้นสิ่งมึนเมา และการฆ่าสัตว์ เป็นต้น แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่ง ที่วางแผนจะไปท่องเที่ยวนอกสถานที่ แล้วทำบุญไปด้วย ทั้งในและต่างประเทศ  ทำให้การท่องเที่ยวมีบรรยากาศที่คึกคักตามไปด้วย"

แต่อย่างไรก็ดีต่อกรณีการทุจริตเงินทอนวัดนั้น พบว่า ไม่มีผลต่อพฤติกรรมการทำบุญของประชาชนให้เปลี่ยนแปลงไป โดยส่วนใหญ่ยังคงไปทำบุญที่วัดตามเดิม เนื่องจากศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรก็ตาม หากรัฐจะแก้ปัญหาปัญหาการทุจริตเงินทอนวัดนั้น ภาครัฐต้องตรวจสอบย้อนกลับช่องทางการเงินรวมของภาครัฐ รวมทั้งมีบทลงโทษที่หนัก สำหรับการทุจริตคอร์รัปชัน ตลอดจนปลูกฝังและสร้างจริยธรรมให้กับข้าราชการ