เอกชนแห่ยื่นประมูล‘เน็ตชายขอบ’

เอกชนแห่ยื่นประมูล‘เน็ตชายขอบ’

กสทช.เผยยอดผู้สนใจซื้อซองประมูลโครงการเน็ตชายขอบ 4 ภาค เพื่อให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงพื้นที่ชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน เคาะเวลาเปิดซองเทคนิครอบแรก 17 ก.ค.นี้ มั่นใจได้ใช้งาน ธ.ค.นี้ ครอบคลุม 15% ของหมู่บ้านทั้งหมด

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า หลังจากสำนักงาน กสทช. เปิดขายซองประกวดราคาโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน ในวันที่ 20-29 มิ.ย.2560 ที่ผ่านมา ดังนี้ 1.พื้นที่โครงการภาคเหนือ 1 จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน แบ่งเป็น สัญญาการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีผู้ซื้อซอง จำนวน 12 ราย และสัญญาการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่มีผู้ซื้อซอง จำนวน 9 ราย

2.พื้นที่โครงการภาคเหนือ 2 จำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี แบ่งเป็น สัญญาการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีผู้ซื้อซอง จำนวน 14 ราย และสัญญาการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่มีผู้ซื้อซอง จำนวน 9 ราย

3.พื้นที่โครงการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 18 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุดรธานี และอุบลราชธานี อุทัยธานี แบ่งเป็น สัญญาการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีผู้ซื้อซอง จำนวน 11 ราย และสัญญาการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่มีผู้ซื้อซอง จำนวน 8 ราย

4. พื้นที่โครงการภาคกลางและภาคใต้ จำนวน 24 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ กาญจนบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชัยนาท ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พังงา พัทลุง เพชรบุรี ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สงขลา สตูล สระแก้ว สระบุรี สุพรรณบุรี และสุราษฎร์ธานี และพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมถึง 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และอำเภอ จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย แบ่งเป็น สัญญาการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีผู้ซื้อซอง จำนวน 11 ราย และสัญญาการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่มีผู้ซื้อซอง จำนวน 9 ราย

นายฐากร กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปสำนักงานกสทช. กำหนดให้มีการยื่นซองข้อเสนอทางเทคนิคของทั้ง 8 สัญญาในวันที่ 17 ก.ค. 2560 เวลา 9.00-12.00 น. และจะจัดให้มีการประกวดราคา โดยใช้วิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออคชั่น)โดยอาศัยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 ในวันที่ 1 ส.ค. 2560 จากนั้นคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้ในเดือน ส.ค. 2560 เริ่มเปิดให้บริการได้ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2560 ไม่น้อยกว่า 15% ของหมู่บ้านเป้าหมาย และจะให้บริการครบทั้ง 3,920 หมู่บ้านภายในเดือน ก.ค. 2561

ทั้งนี้ นายฐากร เสริมว่า ผู้ที่ชนะการประมูลจะต้องมีแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตราคาถูกให้กับประชาชนที่ต้องการต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าบ้านของตนเองด้วยในราคาแพ็กเกจ 50-100 บาท ด้วย ซึ่ง กสทช.กำหนดราคาไว้ 3 แพ็กเกจ ได้แก่ 1. USO แพ็กเกจ รุ่นจิ๋ว ความเร็ว 10 Mbps ราคาไม่เกิน 100 บาทต่อเดือน 2. USO แพ็กเกจ รุ่นเล็ก ความเร็ว 15 Mbps ราคาไม่เกิน 150 บาทต่อเดือน และ 3. USO แพ็กเกจ รุ่นกลาง ความเร็ว 20 Mbps ราคาไม่เกิน 200 บาทต่อเดือน

“ผมจะต้องให้ประชาชนใช้งานอินเทอร์เน็ตราคาถูกกว่าราคาท้องตลาดที่ 590 บาท ต่อเดือนให้ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ท่านนายกต้องการให้เกิด เนื่องจาก กสทช.ได้ลงทุนในหมู่บ้านให้แล้ว หากประชาชนที่ต้องการใช้งานที่บ้านก็ต้องได้ราคาที่ถูกกว่า ส่วนความคืบหน้าเน็ตประชารัฐที่ทำร่วมกับกระทรวงดีอีนั้น ยังอยู่ระหว่างการให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สำรวจข้อมูลอยู่ คาดว่าภายในเดือน ก.ย.-ต.ค. น่าจะได้ราคากลาง”