ส่อง6พฤติกรรมนักช้อปออนไลน์ไทย

ส่อง6พฤติกรรมนักช้อปออนไลน์ไทย

ปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจขายสินค้าในตลาด“อีคอมเมิร์ซ” หรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ จะต้องพบเจอกับผู้ซื้อสินค้าอีคอมเมิร์ซชาวไทยที่มีพฤติกรรมหลากหลายในโลกออนไลน์

บริษัท iPrice ซึ่งเป็นเว็บค้นหาสินค้าออนไลน์ใหญ่ที่สุดใน 7 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทย 1,000 คน ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย.-23 มิ.ย.2560 พบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับผู้บริโภคสินค้าออนไลน์

อีคอมเมิร์ซตอบโจทย์กลุ่มคนรักสบาย

ร้านค้าอีคอมเมิร์ซได้เข้ามาตอบโจทย์คนไทยที่รักความสบายได้อย่างไม่น่าเชื่อ จากอดีตการซื้อสินค้าจะต้องฝ่ารถติดและฝ่าฝูงชนไปหาซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้ากันอย่างอลหม่าน อีคอมเมิร์ซช่วยให้ชาวไทยใช้ชีวิตง่ายขึ้น โดยสั่งซื้อสินค้าเพียงนิ้วคลิ๊ก ก็ได้สินค้ามาส่งถึงหน้าบ้าน โดยกลุ่มคนรักสบายมีสูงถึง 62.5% เลยทีเดียว รองลงมา คือ กลุ่มนักล่าดีล ที่มองหาสินค้าราคาถูกในโลกออนไลน์ และเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อทุกครั้ง

ค้นหาข้อมูลได้ง่ายดายด้วยกูเกิล

หากจัดกลุ่มโดยการค้นหาสินค้า กลุ่มใหญ่ที่สุด คือ กลุ่มกูเกิล ที่ใช้ Search Engine ในการค้นหาด้วยตัวเอง กล่าวคือ ผู้บริโภคใช้ Google, Yahoo, Bing ในการหาข้อมูลด้วยตนเอง พวกเขาต้องการรับข่าวสารจากข้อมูลหลายแหล่งและนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ผ่านกระบวนการความคิดและตัดสินใจของพวกเขา ซึ่งทำให้กลุ่มผู้บริโภคที่เลือกใช้ Search Engine สูงถึง 77% อีกหนึ่งกลุ่มที่น่าสนใจคือกลุ่มติ่งเน็ตไอดอล ซึ่งเป็นกลุ่มที่เชื่อคำโฆษณาของเน็ตไอดอลต่างๆ และนำมาตัดสินใจในการซื้อสินค้า โดยกลุ่มนี้มีขนาด 21%

คนล้าสมัยนิยมจ่ายเงินผ่านธนาคาร

แม้ว่าประเทศไทยจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีและความก้าวหน้าของ Fintech ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่หากพูดถึงการชำระค่าสินค้าออนไลน์ หลายๆ คนจะต้องนึกถึงการโอนเงินผ่านธนาคารเป็นอย่างแรก ซึ่งกว่า 50% ของผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ชาวไทยเลือกว่าพวกเขาใช้บริการธนาคารเป็นประจำ ขอเรียกกลุ่มนี้ว่า “พ่อคนล้าสมัย” เนื่องมาจากผู้บริโภคยังมีพฤติกรรมและความเชื่อแบบดั้งเดิม คือ การโอนเงินผ่านธนาคารมีความน่าเชื่อถือมากกว่าการชำระค่าสินค้าด้วยระบบอื่นๆ จึงทำให้การชำระค่าสินค้าผ่านทางธนาคารนั้นได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง

ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ขายสินค้าออนไลน์ คำถามที่คุณจะถูกถามบ่อยที่สุดก็คือ “คุณมีธนาคาร XXX ไหม ผมจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าโอนต่างธนาคาร”

สินค้าต้องมี Tracking เท่านั้น

การจัดสั่งสินค้าให้ลูกค้า คุณคงจะถูกถามบ่อยๆ ว่าสินค้าลงทะเบียนหรือไม่ ซึ่งผู้บริโภคกว่า 56% ต้องการให้สินค้าของพวกเขาลงทะเบียน เนื่องจากสินค้าลงทะเบียนนั้นมีราคาประหยัดและที่สำคัญคือมี Tracking Code สำหรับการติดตามสินค้าเพื่อจะได้ทราบวันที่สินค้าจะจัดส่งอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังช่วยคลายกังวลว่าสินค้าจะสูญหายหรือไม่ให้กับคนกลุ่มนี้ มากกว่านั้นลูกค้าตัวป่วนมักต้องการให้ร้านค้าจ่ายค่าจัดส่งให้อีกด้วย

ชาวเน็ตนิยมบอกเล่าหลังได้รับสินค้า

เมื่อได้รับสินค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คนไทยซึ่งมีนิสัยแบบชาวเน็ตกว่า 34% เขียนเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสินค้าที่ได้ซื้อมาในโซเชียลมีเดียของตนเอง ผ่านการรีวิว ภาพถ่าย  หรือแม้กระทั่งเขียนแคปชั่นเก๋ๆเพื่อโชว์สินค้าให้แก่คนอื่นๆ ได้รับรู้  มีเพียง 17% ของคนไทยที่ซื้อสินค้ามาแล้วจะอ่านคู่มือการใช้และหาวิธีการใช้ให้แน่นอน

คนไทยเป็นคนตรง ชอบรีวิวแบบตรงไปตรงมา

คนไทยที่ได้ชื่อว่าเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ชอบการวิจารณ์แบบอ้อมค้อม เนื่องจากกลัวการปะทะกันต่อหน้า ที่สำคัญคนไทยขึ้นชื่อว่าเป็นพวกเดินทางสายกลาง นิยมให้คะแนนแบบกลางๆ เพราะกลัวบาปกรรม แต่พฤติกรรมเหล่านี้คงไม่ใช่สำหรับคนไทยในโลกออนไลน์ ถ้าหากพูดถึงการเขียนรีวิวของคนไทยต่อสินค้าและบริการแล้วนั้น คนไทยกลับเป็นคนตรงไปตรงมา ถ้าหากพวกเขาชอบสินค้าและบริการก็จะให้คะแนนเต็ม แต่ถ้าสินค้าและบริการไม่ได้ดังใจก็ให้คะแนนน้อย โดยคนตรงๆ แบบนี้มีมากกว่า 50% เลยทีเดียว รองลงมาคือพวกเดินทางสายกลางซึ่งมีปริมาณ 22% และพวกโลกสวยที่ให้คะแนนรีวิวเต็มอยู่เสมอมีอยู่ 11%

ทั้ง 6 ข้อนี้คือการศึกษาที่น่าสนใจที่ได้พบจากการศึกษาพฤติกรรมของผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ตัวป่วนชาวไทย เชื่่อว่าร้านขายสินค้าออนไลน์ทั้งเล็กและใหญ่ในประเทศไทยจะต้องเจอเรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน เพื่อขายสินค้าและให้บริการที่ดีที่สุดต่อลูกค้าเหล่านี้ เพราะความสุขของลูกค้าก็คือความสุขของเรา

ดังนั้นร้านขายสินค้าออนไลน์ควรนำการศึกษาครั้งนี้ไปปรับใช้เพื่อรับมือต่อลูกค้าตัวป่วนเหล่านี้ให้ดีขึ้นนั่นเอง