ผอ.โรงเรียนดังแจงแล้ว เหตุเด็กโวยต่อแถวไหว้ครูก่อนเข้าร.ร.

ผอ.โรงเรียนดังแจงแล้ว เหตุเด็กโวยต่อแถวไหว้ครูก่อนเข้าร.ร.

กระหึ่มโซเชียล! ผอ.โรงเรียนดังแจงแล้ว เหตุเด็กโวยต่อแถวไหว้ครูก่อนเข้าร.ร. ย้ำไม่เสียเวลา ต้องการให้นักเรียนรักษาเอกลักษณ์ของชาติ

กรณีมีผู้โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงเฟสบุ๊ค ซึ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล เมื่อวานนี้ ระบุว่า “โรงเรียนมีนักเรียน 5 พันกว่า มา ร.ร. ตอนเช้าให้ต่อแถวเข้า ร.ร. ทีละคน คือนี่มาตั้งแต่ 07.00 น. ตอนนี้ 07.25 น. ยังไม่ได้เข้าเลย คือมาเช้าๆ อ่ะก็อยากมากินข้าวเช้าที่ ร.ร. อยากมาส่งการบ้าน อยากมาทำภารกิจส่วนตัว บลา ๆ บอกเลยว่าคนขับรถผ่านไปผ่านมาใครก็มอง ตอนนี้แถวยาวไปถึงประตูสองละจ้า”

ทำให้มีผู้ที่เข้ามาอ่าน แชร์และโพสวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา โดยเฉพาะเรื่องการต่อแถวเรียงหนึ่ง เพื่อเข้าโรงเรียนทางประตูเล็ก และต้องไหว้ครูที่มายืนรับนักเรียนที่หน้าประตู ทำให้ใช้เวลานาน กว่าจะได้เข้าในโรงเรียน

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ได้เดินทางไปที่โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล เพื่อเข้าพบ นายสุจินต์ ขาวแก้ว ผอ.โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นไปตามที่มีการแชร์ในเฟสบุ๊คหรือไม่ โดยบรรยากาศที่โรงเรียนฯ วันนี้ตั้งแต่เช้ามืดมีฝนตกลงมาตลอดเวลา ทำให้ไม่มีการต่อแถวเข้าโรงเรียนตามภาพที่มีการโพสต์เหมือนเมื่อวานนี้ ขณะที่บรรยากาศในโรงเรียน มีการเรียนการสอนตามปกติ

นายสุจินต์ ขาวแก้ว ผอ.โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะปกติก็มีการเดินเข้าทางประตู ที่มีครูยืนรอรับนักเรียนด้านหน้าที่มีการไหว้ครูที่ไปคอยรับ การไหว้เป็นวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของคนไทยมายาวนาน โรงเรียนของเรานอกจากจะสอนหนังสือ หรือวิชาความรู้แล้ว ทางเราจะเน้นสอนคนให้เป็นคนดีมีมารยาทด้วย และสัญลักษณ์ หรือเอกลักษณ์ความเป็นคนไทยอย่างหนึ่งของคนไทย คือการไหว้ ที่แตกต่างกับชาติอื่น พบเจอกันที่ไหนก็ไหว้ ซึ่งที่โรงเรียนมีการทำอย่างนี้มานานแล้ว

“หลังจากเป็นข่าวในโลกโซเชียล ผมได้ตรวจสอบทราบว่า ครูที่เข้าเวรหน้าประตูทางเข้าโรงเรียนตอนเช้า ทำหน้าที่ใกล้ชิดนักเรียน โดยการไปยืนรอรับไหว้ติดกับรั้วประตูทางเข้าโรงเรียน เพื่อติดตามดูแลเด็กนักเรียนอย่างใกล้ชิด ทำให้นักเรียนเข้าประตูได้ทีละคน ส่วนผู้ปกครองก็ไม่สามารถขับรถมาส่งในโรงเรียนได้ ทั้งนี้เราต้องการให้นักเรียนได้ตระหนักในความเป็นไทยได้อย่างชัดเจนขึ้น เมื่อครูยืนติดประตู จึงทำให้เกิดความแออัดต้องยืนอออยู่หน้าประตู แต่ก็ไม่ถึงขนาดแออัดเสียเวลาทำกิจกรรมหน้าเสาธงชาติ เนื่องจากประตูทางเข้าและออกโรงเรียนมีถึง 3 ช่องทาง แต่ปิดไป 1 ช่องทาง เนื่องจากมีการก่อสร้างบริเวณจุดนั้น และขอยืนยันว่าการทำกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงเรียน และการเรียนการสอนก็ดำเนินไปตามปกติ”

นายสุจินต์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องขอขอบคุณสื่อโลกโซเชียลที่นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปวิพากษ์วิจารณ์กัน ทั้งด้านบวกและด้านลบ และลักษณะการทำอย่างนี้ อาจจะทำให้โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนต้นแบบให้โรงเรียนแห่งอื่นกระตือรือร้น รักษาขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมที่จะต้องดำรงไว้สืบไป หากไม่มีครูอยู่หน้าประตูทางเข้าโรงเรียน เพื่อต้องการฝึกให้นักเรียนมีมารยาท ขณะเดียวกันหากไม่มีครูดูแลอย่างใกล้ชิด นักเรียนบางส่วนที่แต่งกายไม่ถูกต้อง ก็จะฉวยโอกาส เดินลัดสนามบาสเก็ตบอลไปเข้าแถวเคารพธงชาติ และไม่ทำความเคารพครู และหลีกเลี่ยงการตรวจเครื่องแบบนักเรียน ว่าถูกต้องหรือไม่

“รวมถึงเด็กนักเรียนที่มาสาย หากครูยืนอยู่ห่างจากประตูรั้วมากเกินไป ซึ่งตนก็ได้กำชับให้ครูเวรแต่ละวันให้เข้ามายืนห่างจากประตูรั้วในตอนเช้า เพื่อไม่ให้การเดินเข้ามาในโรงเรียนไม่แออัด และออกันที่หน้าประตู ซึ่งจะดูสวยงามและเป็นระเบียบ รวมทั้งยังรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมของคนไทย สืบต่อไปในอนาคต”