อินเดียเริ่มใช้ภาษี ‘จีเอสที’ กระตุ้นเศรษฐกิจ

อินเดียเริ่มใช้ภาษี ‘จีเอสที’ กระตุ้นเศรษฐกิจ

อินเดียบังคับใช้ระบบจัดเก็บภาษีสินค้าและบริการ (จีเอสที) ในอัตราก้าวหน้าแล้ว ซึ่งรัฐบาลหวังจะช่วยบูรณาการเศรษฐกิจให้มีความเป็นตลาดเดียวมากขึ้น

รัฐบาลอินเดียเริ่มบังคับใช้ระบบจัดเก็บภาษีสินค้าและบริการ (จีเอสที) ในอัตราก้าวหน้าวันนี้ (1 ก.ค.) เป็นวันแรก หลังสภาผู้แทนราษฎรของอินเดียรับรองการใช้กฎหมายภาษีฉบับใหม่ในอัตราเดียวกันทั่วประเทศเมื่อคืนวันศุกร์ (30 มิ.ย.) ที่ผ่านมา

ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย กล่าวต่อที่ประชุมสภาว่า การใช้จีเอสทีเป็นการบูรณาการให้ระบบการจัดเก็บภาษีในอินเดียมีความเป็นประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากความยุ่งยากและซับซ้อนของระบบจัดเก็บภาษีในอดีตที่เปิดโอกาสให้แต่ละรัฐกำหนดกันเองนั้นได้หมดไปแล้ว

นอกจากนี้ นายโมดียังแสดงความเชื่อมั่นว่า ระบบจีเอสทีจะช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอีกราว 0.4% โดยปัจจุบันเศรษฐกิจอินเดียมีมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 70 ล้านล้านบาท) ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย รองจากจีนและญี่ปุ่น

ทั้งนี้ อินเดียเรียกเก็บภาษีจีเอสทีในอัตราก้าวหน้า 4 ขั้น สำหรับสินค้ามากกว่า 500 รายการ คือ 5%, 12%,18% และ 28% โดยสินค้าที่ต้องเสียจีเอสทีในอัตราสูงสุดคือสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ “สินค้าบาป” ซึ่งรวมถึงสุราและยาสูบ จะมีการใช้อัตราพิเศษที่อาจสูงกว่า

ขณะเดียวกันทั้ง 36 รัฐในอินเดียสามารถกำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้าเหล่านี้ได้เอง ขณะที่ภาคเกษตรกรรมได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลที่ลดอัตราภาษีสำหรับสินค้าสำคัญ เช่น ปุ๋ยและรถแทร็กเตอร์ จาก 18% ลงเหลือเพียง 5% และผลผลิตทางการเกษตรจะได้รับการลดภาษีลงด้วย