‘แอคคอร์’จับตาพื้นที่"อีอีซี"หนุนโรงแรมโต

‘แอคคอร์’จับตาพื้นที่"อีอีซี"หนุนโรงแรมโต

แอคคอร์ เชื่ออีอีซีตะวันออกหนุนการลงทุนโรงแรมเติบโตสูง เผยแผนเตรียมเปิดโนโวเทล ศรีราชา เจาะกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม พร้อมรับตลาดท่องเที่ยว ชี้เชียงรายอีกทำเลน่าจับตา เตรียมเปิด 4 โรงแรมรวดรับการค้า-ท่องเที่ยวชายแดนคึกคัก

นายแพทริค บาสเซ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการแอคคอร์โฮเทล ประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลกำลังส่งเสริมการลงทุนพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เชื่อว่าเป็นโยบายที่ดีและนำไปสู่โอกาสการลงทุนใหม่ๆ ทั้งจากไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมที่จะมีการเติบโตสูง เพราะมีปัจจัยเสริม ได้แก่ การปรับปรุงท่าอากาศยานอู่ตะเภา และการเพิ่มเที่ยวบินของสายการบินต่างๆ สะดวกต่อการเดินทางเข้ามาทั้งตลาดนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว

นอกจากนั้น ในส่วนของพื้นที่แถบชายฝั่งตะวันออกเอง ยังคงมีชายหาดเงียบสงบและรักษาธรรมชาติไว้อย่างครบถ้วนอีกหลายหาด มีศักยภาพพร้อมจะได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป จึงมั่นใจว่าพื้นที่นี้จะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ในส่วนของแอคคอร์ เตรียมเปิดโรงแรมใหม่ โนโวเทล ศรีราชา มารีน่า เบย์ ขนาด 279 ห้อง โดยศรีราชา เป็นทำเลที่มีการพัฒนารุดหน้า ทั้งการเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่มีนักลงทุนเดินทางมาเจรจาธุรกิจจำนวนมาก และยังมีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์พร้อม เหมาะแก่การท่องเที่ยว ดังนั้น การมีโรงแรมที่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองที่สะดวกต่อการการเดินทาง ทำให้ตั้งเป้าไปที่ลูกค้ากลุ่มธุรกิจในแหลมฉบับ ทั้งรูปแบบการเข้าพักและจัดงานประชุม รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอีกด้วย

ขณะเดียวกัน จ.เชียงราย เป็นอีกทำเลที่มีลักษณะเด่นด้านการรอบรับด้านการค้าและท่องเที่ยวพร้อมกัน และเป็นจุดหมายที่น่าจับตามอง มีจำนวนผู้เดินทางเยี่ยมเยียนเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เนื่องจากมีเขตแดนติดต่อกับเพื่อนบ้าน 2 ประเทศ เป็นประตูไปสู่การค้ากับประเทศจีนตอนใต้ได้ ขณะที่ด้านการเป็นแหล่งท่องเที่ยว ยังคงมีสเน่ห์แบบเมืองเล็กๆ ซึ่งมีวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม และธรรมชาติที่งดงามและยังสมบูรณ์เช่นกัน

การขยายตัวของการค้าและท่องเที่ยว ทำให้แอคคอร์ เตรียมเปิดโรงแรมใหม่ในเชียงรายถึง 4 แห่ง รวมกว่า 710 ห้อง จากเดิมที่มีอยู่เพียง 1 แห่ง 135 ห้อง ซึ่งนับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขยายบุกตลาดใหม่ของแอคคอร์ในเอเชียแปซิฟิก

ด้านพื้นที่ภาคใต้ มี 3 ทำเลใหม่ที่มีโอกาสรองรับการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับนักเดินทางที่มาเที่ยวสมุยให้กลับมาเที่ยวในตัวเมืองมากขึ้น รวมถึงกระบี่ ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง และที่ต้องจับตามองคือ นครศรีธรรมราช ซึ่งยังมีธรรมชาติครบถ้วน ชายหาดสวยงาม และน้ำทะเลใสสะอาด เป็นปัจจัยที่จะส่งเสริมการเติบโตด้านท่องเที่ยวอย่างแข็งแกร่ง และเครือแอคคอร์ กำลังมีแผนขยายธุรกิจใน สุราษฎร์ธานี 1 แห่งจำนวน 200 ห้อง รวมถึงรับบริหารโรงแรมบนเกาะสมุยอีก 2 แห่ง รวม 212 ห้องด้วย

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโรงแรมในหัวหิน ซึ่งปัจจุบันแอคคอร์มีโรงแรมอยู่แล้ว 5 แห่ง 687 ห้องนั้น ยังเป็นสถานที่พักตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย รวมถึงชาวต่างชาติที่ะมองหาที่พักชายทะเลใกล้กรุงเทพ แต่ด้วยความนิยมที่กระจุกตัวในช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้อัตราลูกค้าเบาบางในช่วงวันจันทร์-วันพฤหัส ทำให้ต้องปรับตลาดรับกรุ๊ปทัวร์หรือลูกค้ากลุ่มการประชุมในวันธรรมดาแทน เพราะทำได้เต็มที่มากกว่า

ทั้งนี้ แอคคอร์ มีโรงแรมในไทยแล้ว 73 แห่ง 16,992 ห้อง และมีโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการเตรียมเปิดใหม่อีก 21 แห่ง 4,450 ห้อง ภายในปี 2563