สั่ง 'สารวัตรใหญ่' แจงด่วน สาวเบลเยี่ยมตายปริศนาเกาะเต่า

สั่ง 'สารวัตรใหญ่' แจงด่วน สาวเบลเยี่ยมตายปริศนาเกาะเต่า

ว่อนโซเชียลพ่นพิษ! รองผู้การฯสุราษฎร์ธานี สั่ง "สารวัตรใหญ่" ชี้แจงด่วน เหตุแหม่มสาวชาวเบลเยี่ยมตายปริศนาบนเกาะเต่า เตรียมสอบเพิ่มเพื่อความกระจ่าง

จากกรณีหลายเว็บไซต์ เผยแพร่ข้อมูล น.ส.เอลีส ดัลเลมานจ์ นักท่องเที่ยวชาวเบลเยี่ยม วัย 30 ปี ถูกพบเป็นศพบนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานีโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวรายนี้พำนักบนเกาะพงันมาระยะหนึ่งแล้ว ก่อนไปที่เกาะเต่าเมื่อ 19 เมษายน โดยสองวันก่อนหน้า เธอติดต่อมารดาผ่านสไกป์ว่า เธอตัดสินใจกลับบ้านที่เบลเยี่ยมหลังเดินทางมานาน 18 เดือน

ผลสอบสวนการเดินทางของเธอพบว่า ดัลเลมานจ์เข้าพักที่บังกะโล ทริปเพิล บี ที่แม่หาด เกาะเต่า คืนนั้น เกิดไฟไหม้ห้องพัก 3 ห้อง รวมถึงห้องที่เธอพักอยู่ เจ้าของบังกะโล กล่าวว่าไฟไหม้เกิดจากไฟฟ้าขัดข้อง และไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เธอหลบหนีออกไป จากนั้นดูเหมือนหญิงสาวเดินไกลหลายกิโลเมตร ไปทางอ่าวโตนด เธอรับประทานอาหารที่นั่นและจองตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพ ผ่านทางชุมพร ในวันที่ 24 เมษายน แต่ปรากฎว่า กระเป๋าเดินทางของเธอไปถึงชุมพรแต่ไร้เงาเจ้าของ ก่อนพบเป็นศพบนโขดหิน ในป่าเหนืออ่าวโตนดในหลายวันต่อมา โดยตำรวจระบุในตอนนั้นว่าเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายและแม่ก็รับทราบ

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. (29 มิ.ย.) พ.ต.อ.ปรีชา กลัดสวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี (รองผบก.ภ.จ.สุราษฏร์ธานี) รักษาราชการแทน พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สารวัตรใหญ่ สภ.เกาะเต่า ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุให้เร่งสรุปข้อเท็จจริงอีกครั้ง และให้รีบรายงานขึ้นมาทางสำนักงานกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีภายใน 3 วันนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังจากมีข่าวแพร่สะพัดออกไป

ซึ่งเหตุดังกล่าว เกิดเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2560 และทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการติดต่อมารดาผู้เสียชีวิตเดินทางมาดูที่เกิดเหตุและนำศพส่งซันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และได้ส่งต่อไปตรวจพิสูจน์ที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ทางพนักงานสอบสวนได้สรุปเรื่องไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีมารดาของผู้เสียชีวิตเดินทางมาร่วมรับรู้ แต่เมื่อมีข่าวออกมาอีกครั้ง ตนเองได้สั่งการให้สรุปเรื่องกลับมาใหม่ เพื่อจะได้รายงานรายละเอียดให้กับหน่วยเหนือรับทราบต่อไป

พ.ต.อ.ปรีชายังยอมรับว่า ที่พักของผู้เสียชีวิตมีเหตุไฟไหม้จริงและนางสาวอีลิสก็ได้หายตัวไปก่อนไฟไหม้ ต่อมาประมาณ 3 วันก็มีผู้มาพบศพที่บริเวณโตนด ทางพนักงานสอบสวนรายมาว่าเป็นการฆ่าตัวตายโดยใช้เชือกผูกคอ ส่วนประเด็นที่มีผู้พบกระเป๋าเดินทางของผู้เสียชีวิตในเรือเฟอร์รี่ ที่จังหวัดชุมพร ตนกำลังประสานพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นไปตามข่าวหรือไม่ และศพมีร่องรอยถูกสัตว์กัดกินบางส่วนนั้นยังไม่ทราบขอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งก่อนที่จะเปิดเผยต่อไป