งานเข้า!วังช้างชื่อดัง ถูกจนท.พญาเสือร้องDSIสอบปมฉาว

งานเข้า!วังช้างชื่อดัง ถูกจนท.พญาเสือร้องDSIสอบปมฉาว

อ้างสู้อิทธิพลไม่ไหว! "หน.ชุดพญาเสือ" ร้อง "ดีเอสไอ" ตรวจสอบวังช้างชื่อดัง ส่งช้างไปแสดงนิทรรศการที่สวนสัตว์เยอรมัน แต่ไม่ส่งช้างกลับ - นำช้างป่าสวมตั๋วรูปพรรณช้างบ้าน

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) - นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) เดินทางเข้ายื่นเอกสารต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอให้สอบสวนและรับเป็นคดีพิเศษกรณีสวมตั๋วรูปพรรณช้างป่าและช้างบ้าน โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ และรองโฆษกดีเอสไอ รับเอกสารหลักฐาน

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ประเด็นที่นำมาร้องให้ดีเอสไอรับไปเป็นคดีพิเศษ มี 2 เรื่อง คือ การส่งออกช้างไปต่างประเทศ สืบเนื่องจากวังช้างชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้รับอนุญาตให้ส่งช้าง 5 เชือกออกไปนอกราชอาณาจักร เพื่อไปแสดงนิทรรศการเป็นการชั่วคราว ที่สวนสัตว์โคโลญจ์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เมื่อปี 2549 ตามที่วังช้างร้องขอ

โดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน 6 ล้านบาท และให้ทำสัญญาปีต่อปี แต่ขณะนี้ล่วงเลยมาเป็นเวลา 11 ปี ช้างทั้ง 5 ตัวก็ยังไม่ได้นำกลับมา ก็ไม่ยอมให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ริบเงินประกัน

นอกจากนี้ การตรวจสอบยังพบว่าช้างที่ส่งออกไป 5 ตัวเป็นตัวเมียทั้งหมด และได้ตกลูก 3 ตัว โดยไม่มีการแจ้งกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชทราบ ถือเป็นการผิดเงื่อนไขการอนุญาต เมื่อพิจารณาแล้วน่าจะเป็นการนำเอาน้ำเชื้อจากประเทศไทยไปผสมเทียม ถือเป็นการลักลอบส่งออกสัตว์ป่าคุ้มครอง ผิดตามอนุสัญญาไซเตส รวมทั้งยังพบมีการแจ้งเอกสารเท็จเกี่ยวกับช้างที่ส่งไปทั้งหมด

นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า กรมอุทยานฯ ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ หัวหินทีค ในต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบช้างสีดอ 2 เชือกมีรูปตั๋วรูปพรรณไม่ถูกต้อง มีการสวมรอยรูปพรรณจากช้างป่าเป็นช้างบ้าน ต่อมาเจ้าของช้างได้พาช้างหลบหนีมาอยู่ที่วังช้างดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบถึง 3 ครั้ง ผลยืนยันชัดเจนว่าดีเอนเอช้างไม่ตรงกับตั๋วรูปพรรณ

โดยทางเจ้าของวังช้างได้โวยวายอ้างสถาบันเบื้องสูง พร้อมทั้งข่มขู่จะนำช้างไปประท้วงที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ย้ายอธิบดีกรมอุทยานฯ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ฐานครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และประมวลกฎหมายอาญา ในความผิดฐานใช้เอกสารเท็จ, หมิ่นสถาบัน, ข่มขู่ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ จึงขอให้ดีเอสไอ รับเรื่องเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากยอมรับว่ากำลัง และอำนาจของกรมอุทยานฯ อาจจะไม่สามารถสู้รบกับเจ้าของวังช้างซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลได้

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ทางดีเอสไอจะรับเรื่องและเร่งพิจารณา โดยจะมอบให้สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมตรวจสอบเอกสารหลักฐาน หากเข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษจะเสนอต่ออธิบดีดีเอสไอให้พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ