‘กูเกิล’ ชี้ ‘เสิร์ชเอ็นจิ้น’ ช่องทางหนุนซื้อสินค้า

‘กูเกิล’ ชี้ ‘เสิร์ชเอ็นจิ้น’ ช่องทางหนุนซื้อสินค้า

แนะนักการตลาดให้ความสำคัญ-พบ 93% ใช้เสิร์ชก่อนซื้อ

กูเกิล เผยข้อมูล เสิร์ชเอ็นจิ้น ช่องทางหลัก ดันผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสินค้ายุคโมบาย รับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน แนะนักการตลาดให้ความสำคัญให้ข้อมูลในช่องทางที่หลากหลาย ระบุกว่า 93% ของกลุ่มสำรวจเลือกใช้ระบบค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจ

นายไมเคิล จิตติวาณิชย์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด กูเกิล ประเทศไทย กล่าวว่า พฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบัน สมาร์ทโฟนกลายเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน โดยข้อมูลระบุว่า เฉพาะปี 2559 มีโทรศัพท์มือถือถูกจำหน่ายออกไปกว่า 14.8 ล้านเครื่อง

ขณะที่ปัจจุบัน ยอดขายมือถือในไทย แต่ละปีคิดเป็นราว 25% ของจำนวนประชากรในประเทศ ส่งผลให้ปริมาณใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และ 75% ของผู้บริโภคพบว่า เวลาชมโทรทัศน์มีการใช้งานสมาร์ทโฟนไปพร้อมๆ กัน

กูเกิลได้จัดทำผลวิจัยครั้งนี้ภายใต้หัวข้อ “Path to Purchase” ร่วมกับ ทีเอ็นเอส บริษัทวิจัยการตลาดชั้นนำ แสดงให้เห็นถึงกระบวนการที่ซับซ้อนของผู้บริโภคก่อนตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า โดยสัมภาษณ์ผู้ซื้อสินค้าและบริการที่เฉพาะเจาะจง รวมทั้งผู้ที่ซื้อแพ็คเกจโทรศัพท์มือถือช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทั้งเพศชายและหญิง อายุระหว่าง 18-60 ปี จำนวนทั้งสิ้น 500 ราย

ข้อมูล พบว่า ผู้บริโภคไทยได้รับข้อมูลข่าวสารที่ดีขึ้นกว่าเดิม ด้วยช่องทางการค้นหาผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ผู้บริโภคเข้ามาที่ร้านมีจุดประสงค์ชัดเจนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการจะซื้อ ซึ่งเกือบ 9 ใน 10 หรือราว 89% ของคนไทย ที่ซื้อโทรศัพท์มือถือ เปิดเผยว่า พวกเขาได้เลือกแบรนด์ก่อนที่จะไปซื้อสินค้าที่ร้านเรียบร้อยแล้ว

ผู้บริโภคไทยเปิดใจรับฟังความคิดเห็นต่างๆ ขณะหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาสนใจ โดย 64% ของคนไทยที่ซื้อโทรศัพท์มือถือ เผยว่า พวกเขาค้นพบแบรนด์ใหม่ๆ ในระหว่างหาข้อมูล นอกจากนี้ กว่า 9 ใน 10 ของคนไทยที่ซื้อโทรศัพท์มือถือ หรือราว 93% เปิดเผยว่า เขาศึกษาหาข้อมูลส่วนใหญ่ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งมีอิทธิพลต่อพวกเขามากที่สุด โดย เสิร์ชเอ็นจิ้น เป็นเครื่องมือสำคัญในการสืบค้นหาข้อมูล

คนไทยมักเข้าไปหาข้อมูลออนไลน์จาก 2 แหล่งหลักๆ ได้แก่ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของแบรนด์ต่างๆ และเสิร์ชเอ็นจิ้น โดยเสิร์ชเอ็นจิ้นทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปสู่เว็บไซต์หรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ บนอินเทอร์เน็ต

นายไมเคิล กล่าวว่า วิดีโอ เข้ามามีบทบาทในการเลือกแบรนด์ด้วยเช่นกัน ผู้บริโภคมักดูวิดีโอออนไลน์เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม และเสริมสร้างการตัดสินใจของตัวเอง

ข้อมูลเหล่านี้ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อนักการตลาด ที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคด้วยข้อมูลที่เป็นประโยชน์และเกี่ยวข้องกับความต้องการของผู้บริโภค ช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าหรือบริการได้

ทั้งนี้ ในอดีตนักการตลาดต้องพึ่งพาแหล่งข้อมูลทางอ้อมเพียงอย่างเดียว เช่น ข้อมูลประชากร อายุ และ เพศ ขณะที่ข้อมูลประชากรยังคงสำคัญในการวางแผนการตลาด แต่เจตนาผู้บริโภคหรือสิ่งที่ผู้คนต้องการช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ถือเป็นโจทย์ใหญ่สำคัญที่นักการตลาดต้องตอบสนองให้ได้