วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (28 มิ.ย.60)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (28 มิ.ย.60)

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว ประกอบกับคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับลด

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับสกุลเงินในตะกร้าหลัก ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนกลับมาลงทุนทำกำไรในสัญญาน้ำมันดิบมากขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในสกุลเงินสหรัฐ จะราคาต่ำลงและดึงดูดนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆมากขึ้น

+ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนเพื่อทำกำไรระยะสั้นหลังราคาน้ำมันดิบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

+ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ จะปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 3 สัปดาห์ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 3.25 ล้านบาร์เรล ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะรายงานตัวเลขจริงในวันนี้

+/- นักลงทุนยังคงจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ (โอเปค) โดยรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานจากประเทศหลักของกลุ่มโอเปค จะประชุมร่วมกันที่รัสเซียในวันที่ 24 ก.ค. นี้ โดยที่ประชุมอาจมีการเสนอมาตรการกระตุ้นราคาเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมโอเปคในเดือน พ.ย. ต่อไป

- อย่างไรก็ตาม สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 23 มิ.ย. 60 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 851,000 บาร์เรล ไปแตะที่ระดับ 509.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล

- กำลังการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียยังคงอยู่ในระดับสูง โดยตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ระดับ 935,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งบริษัทน้ำมันแห่งชาติตั้งเป้าหมายการผลิตที่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในสิ้นเดือน ก.ค. นี้

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงในช่วงเทศกาลวันหยุดในภูมิภาคเอเชีย อย่างไรก็ตาม อุปทานปรับตัวลดลงจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในเอเชียที่ปรับลดลงในช่วงเทศกาลรอมฎรที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตัวเลขการส่งออกน้ำมันดีเซลของประเทศจีนในเดือน พ.ค. 60 ยังคงใกล้เคียงกับเดือน เม.ย. 60 อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้ในภูมิภาคเอเชียต่อเนื่อง


ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

          ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 42-47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
 
          ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 44-49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


ปัจจัยที่น่าจับตามอง

- ตลาดยังคงกังวลกับการปรับเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรียและลิเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับการยเว้นจากข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต โดยล่าสุด หลังท่อขนส่งน้ำมันดิบ Trans Forcados Pipeline กลับมาดำเนินการอีกครั้ง ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของไนจีเรียคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเกิน 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดรอบ 17 เดือน และปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนก.ค. ราว 0.18 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.885 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนก.ค.

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ คาดว่าจะปรับลดลง จากอัตราการกลั่นของโรงกลั่นในสหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับ ความต้องการใช้น้ำมันในช่วงฤดูร้อนที่ปรับเพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางโดยเฉพาะ ซาอุดิอาระเบีย ที่จะทำให้ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียมาสู่สหรัฐ ปรับลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ปรับลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 509.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลงราว 2.1 ล้านบาร์เรล

- จับตาท่าทีของผู้ผลิตน้ำมันดิบเกี่ยวกับมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หลังอิหร่านให้ความเห็นว่ากลุ่มโอเปคอาจพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตมากกว่า 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ปรับเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้


---------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

โทร.02-797-2999