สร้าง 'แอพพลิเคชั่น' ดึงผู้ถือหุ้นมีส่วนร่วม 

สร้าง 'แอพพลิเคชั่น' ดึงผู้ถือหุ้นมีส่วนร่วม 

"ก.ล.ต."เร่งพัฒนาระบบการประชุมผู้ถือหุ้นผ่าน "แอพพลิเคชั่น" หวังช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าประชุม หลังพบผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมไม่ถึง 5 % ชี้มีหลายบริษัทจดทะเบียนพร้อมนำร่อง

นางวชิรา ณ ระนอง นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)อยู่ระหว่างการพัฒนารูปแบบการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี โดยใช้เทคโนโลยีช่วยให้ผู้ถือหุ้นมีส่วนร่วม และสามารถเข้าร่วมประชุมได้ รวมถึงสามารถลงคะแนนเสียงผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า การเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมเพียง 5 % ของจำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด

“การประชุมผู้ถือหุ้นนั้นมีผู้ที่เข้าร่วมน้อยมากในแต่ละปี ซึ่งปี 2560 พบว่า มีจำนวนผู้ที่มีรายชื่อในการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น 4.6 ล้านรายชื่อ แต่มีผู้เข้าร่วมเพียง 2.1 แสนคนเท่านั้น อาจเกิดจากความขัดข้องในหลายประการ เช่น ผู้ถือหุ้นไม่เห็นความสำคัญของการประชุม รวมถึงความไม่สะดวกที่จะร่วมประชุมผู้ถือหุ้น”

สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนมองว่า ในอนาคตเมื่อระบบอินเทอร์เน็ตจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะการประชุมผู้ถือหุ้นน่าจะนำมาใช้ประโยชน์ เพราะจะช่วยให้ผู้ถือหุ้นสามารถติดตามข้อมูลของบริษัท และลงคะแนนเสียงในวาระสำคัญได้ แม้ว่าจะอาจจะเพิ่มต้นทุนการจัดประชุมให้กับบริษัทจดทะเบียนบ้าง

ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมาพบว่าหลายบริษัทขนาดใหญ่ได้จัดให้มีการรับฟังข้อมูลการประชุมผู้ถือหุ้นผ่านระบบอินเทอร์เน็ต แม้จะยังไม่สามารถลงคะแนนเสียงได้ ซึ่งพบว่ามีการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน

สำหรับผลประเมินการคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2560 จำนวน 618 บริษัท พบว่าบริษัทจดทะเบียนมีค่าเฉลี่ยคะแนนที่เพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ 91.97 คะแนน จากปีก่อนที่มีคะแนนเฉลี่ย 91.62 คะแนน แสดงถึงคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนที่ดีขึ้น แม้ว่าในปีนี้จะมีการเพิ่มความเข้มงวดในการประเมินตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฉบับใหม่ โดยในผลคะแนนเฉลี่ยเมื่อแยกหัวข้อ พบว่า คะแนนก่อนการประชุมอยู่ที่ 40.58 คะแนน ลดลงจากปีก่อนที่ 43.19 คะแนน และคะแนนหลังจากประชุมอยู่ที่ 7.86 คะแนน ลดลงจากปีก่อนที่ 9.39 คะแนน ผลของการปรับลดลงเนื่องจาก บริษัทจดทะเบียนยังไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้องกับการดำเนินการตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฉบับใหม่ ซึ่งสมาคมจะเร่งทำความเข้าใจกับบริษัทจดทะเบียนเพื่อยกระดับการประชุมผู้ถือหุ้นให้มีคุณภาพ

ส่วน 50 บริษัทที่สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนจับตาการประชุมเป็นพิเศษ พบว่า มีพัฒนาการที่ดีขึ้น และผู้บริหารบริษัทรวมถึงผู้ถือหุ้นมีความเคารพสิทธิของผู้ที่จะเข้าร่วมประชุม และไม่มีกรณีการกีดกันไม่ให้เข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด มีเพียง 1 บริษัทเท่านั้น ที่ยังมีปัญหาไม่สามารถประชุมผู้ถือหุ้นได้ทันตามกำหนด