กรมชลฯสั่งเพิ่มการระบายน้ำ 4 เขื่อนหลัก

กรมชลฯสั่งเพิ่มการระบายน้ำ 4 เขื่อนหลัก

"กรมชลประทาน" สั่งเพิ่มการระบายน้ำ 4 เขื่อนหลักเป็น 30.45 ล้านลูกบาศก์เมตรตั้งแต่วันนี้ หลังความต้องการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้น

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายหลักต่างๆ ส่วนใหญ่ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่งค่อนข้างมาก เนื่องจากขณะนี้ได้เข้าสู่ภาวะฝนทิ้งช่วงมีฝนตกน้อยลง แม่น้ำสายหลักต่างๆ จึงสามารถรองรับน้ำได้อย่างปลอดภัย โดยล่าสุดข้อมูล ณ วันที่ 27 มิถุนายน มีปริมาณน้ำไหลผ่านในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ 502 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 7.47 เมตร และมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 105 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะเห็นได้ว่าน้ำท่าตามธรรมชาติลดลงมาก ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลัก รวมกันจากเดิมวันละ 23.89 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 30.45 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 41,962 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 56 มีปริมาณน้ำมากกว่าปี 2559 รวม 9,618 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพียงพอใช้ตลอดฤดูฝนนี้ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 33,200 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากมีปริมาณน้ำมาก 4 แห่ง คือ เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนทับเสลา และเขื่อนหนองปลาไหล ทางกรมชลประทานได้ให้โครงการชลประทานในพื้นที่ลดระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำ เพื่อให้มีพื้นที่รองรับฝนที่จะตกลงมาอีกในระยะต่อไป ทั้งนี้ เฉพาะในลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก มีปริมาณน้ำรวม 11,385 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 46 ทำให้ 4 เขื่อนหลักยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 13,400 ล้านลูกบาศก์เมตร และสำหรับผลการเพาะปลูกพืชฤดูฝน (ณ 21 มิ.ย.60) ทั้งประเทศ มีการเพาะปลูกไปแล้ว 8.52 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 52 (แผน 16.41 ล้านไร่)

อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังบริเวณ ต.หนองเมือง อ.บ้านหมี่ ประมาณ 500 ไร่ สำนักชลประทานที่ 10 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 8 เครื่อง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 - 2 วันนี้