Retail Market Monitor (27 มิ.ย.60)

Retail Market Monitor (27 มิ.ย.60)

ปัจจัยต่างๆยังสนับสนุนการเก็งกำไรรายตัว และ Window dressing

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มแสดงสัญญาณผันผวนระหว่างวัน อัตราการ Put-to-call ของ S&P500 สูงถึง 2.17 เทียบเท่าต้นปี 2559 ขณะที่นักลงทุนเพิ่มการเข้าซื้อพันธบัตร หลังความต้องการพันธบัตรสหรัฐฯ 2 ปี แตะระดับสูงถึง 3.03 เท่า ซึ่งเรามองสถานการณ์ดังกล่าวจำกัดเงินที่เข้าสู่หุ้นสหรัฐฯ และทำให้เงินลงทุนไหลเข้าสู่เอเชียและตลาดเกิดใหม่ เป็นบวกต่อการเก็งกำไรหุ้นรายตัวในช่วงปิดบัญชีกลางปี (window dressing) ภาพรวมเรายังคงกลยุทธ์เลือกหุ้นรายตัวในกลุ่มที่เกี่ยวกับการบริโภคในประเทศเป็นหลัก โดยเน้นกลุ่ม โรงแรม ค้าปลีก (บางตัว) รับเหมา และเช่าซื้อ อาทิ MINT, ERW, MAKRO*, CPN, SVOA*, STEC, TPOLY*, GCAP*, AMANAH*, TSR, MONO* และ MACO* ทั้งนี้ตลาดเน้นผลักดันหุ้นที่ยังคงปรับตัวขึ้นน้อย (Underperform) ในหลายๆกลุ่ม และเริ่มผลักดันหุ้นกลุ่มที่ยังขึ้นน้อย อาทิ การแพทย์ ซึ่งเรามองเป็นเพียงการเล่นรอบฟื้นตัวราว 10%+/-

กลุ่มปิโตรเคมมีอาจได้รับผลกระทบจากการเตรียมเข้า IPO ของ Lotte Chemical Titan (LCT) ที่มีการผลิตจาก Naptha base ซึ่งคล้ายกับ SCC อย่างไรก็ตาม เรายังชอบ IRPC และ PTTGC จาก valuation ที่ถูกกว่า // ประเมินดัชนียกกรอบมาเคลื่อนไหวในกรอบ 1578-1590 จุด การเก็งกำไรควรเลือกหุ้นที่ยัง Laggard และตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง **ระวังแรงทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนก่อนการจับฉลากวันนี้**// หุ้นแนะนำ MONO*, RATCH, TTA //เก็งกำไร MCOT*, MACO*, TLUXE*

ประเด็นการลงทุน

เงินไหลเข้าพันธบัตรเอเซีย - ความต้องการพันธบัตรเอเชียพุ่งแตะสูงสุด 8 เดือน คาดมีแนวโน้มทรงตัวระดับสูงตลาดปี ชี้ได้แรงหนุนจากผลตอบแทนภูมิภาคพุ่งขณะที่เงินเฟ้อต่ำกดดันผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลง ด้านสมาคมตราสารหนี้เผยเงินไหลเข้าพันธบัตรไทยครึ่งปีแรก 8.3 หมื่นล้านบาท

สินเชื่อ – สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไทย พ.ค. 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.43% MoM และ 1.67% YoY ขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากเดือนก่อน นำโดย สินเชื่อภาคธุรกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจระยะสั้น ขณะที่ สินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อรายย่อยไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากธนาคารยังระมัดระวัง

EARTH ขึ้น SP & NP ยาว – ตลท. ยังคงขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ หลังผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ 5.5 พันล้านบาท พร้อมขึ้นเครื่องหมาย NP จนกว่าจะจัดให้มีผู้สอบบัญชีตรวจสอบเป็นกรณีพีเศษ ตามคำสั่งสำนักงาน ก.ล.ต.

ผลจับฉลากโซลาร์ - กกพ.ประกาศผลจับสลากโซลาร์ฟาร์มราชการ-สหกรณ์เฟส 2 มีหน่วยงานผ่านคัดเลือก 38 ราย กำลังผลิตรวม 171.52 MW ต่ำกว่าเป้า 219 MW ย้ำต้อง COD ภายในปี 61 เตรียมเปิดรับซื้อไฟฟ้าไฮบริดอีก 300 MW ก.ค.นี้

MCOT - หารือ กสทช. ขอคืนคลื่น 2600 MHz จำนวน 90 MHz ตาม พ.ร.บ.กสทช.ฉบับใหม่ ซึ่งจะทำให้มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาผู้ถูกเรียกคืนคลื่น ซึ่งเราประเมินมีโอกาสได้รับชดเชย 7-9 บาทต่อหุ้น (อิงสมมติฐานค่าชดเชยที่ 10,000 บาท/15MHz และอัตราชดเชยที่ 10%)

สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ: ก.ค. – อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้กรีซ / ภายใน 20 ก.ค. – ผลประกอบการไตรมาส 2/60 กลุ่มธนาคารพาณิชย์

แนวรับ 1578/แนวต้าน : 1585-1590 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)

หุ้นแนะนำ

• MONO* (4.2) : ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 4/60 และฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 อาจไม่ดีนักจากธุรกิจภาพยนตร์ แต่เราให้น้ำหนักการฟื้นตัวของธุรกิจโทรทัศน์ดิจิตอลจะผลักดันการฟื้นตัวและกลับมามีกำไรในปีนี้

• RATCH (62) : ได้รับการบรรจุเข้า SET50 มีผล 2H60 และผลการดำเนินงาน 2Q60 ดีขึ้นจากโรงไฟฟ้าหงสา, ผ่านคุณสมบัติโครงการโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ในประเทศ 5 MW, อยู่ระหว่างศึกษาการเข้าซื้อโครงการพลังงานต่างแดน คาดว่าจะได้ข้อสรุป 3Q60

• TTA* (12) : ค่าระวางเรือฟื้นเป็นวันที่ 3 ขณะที่เข้าสู่ช่วง high season ของค่าระวาง (มิ.ย.-ก.ย.) และผลการดำเนินงานของบริษัทจากธุรกิจเดินเรือเริ่มกลับมาเป็นบวกแล้วตัวแต่ไตรมาส 1/60

• หุ้นมีประเด็น: MCOT* (เราประเมินชดเชยคลื่น 2600MHz ที่ 7-9 บาทต่อหุ้น อิงสมมติฐานค่าชดเชยที่ 10,000 บาท/15MHz และอัตราชดเชยที่ 10%) / MACO* (ธุรกิจป้ายโฆษณานอกบ้านคาดจะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง และเราคาดบริษัทจะยังเน้นการเติบโตด้วยการเข้าซื้อกิจการ) / TLUXE* (ธุรกิจอาหารสัตว์น้ำมีแนวโน้มฟื้นตัว ขณะที่รับรู้รายได้จากการผลิตไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพเพิ่มขึ้น)