ต่างชาติซื้อบิ๊กล็อต ‘แบงก์กรุงเทพ’

ต่างชาติซื้อบิ๊กล็อต ‘แบงก์กรุงเทพ’

"ต่างชาติ" ซื้อบิ๊กล็อต "แบงก์กรุงเทพ" ราคาเฉลี่ย 189 บาทสูงกว่าในกระดาน โบรกคาดสินเชื่อครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่น 

หุ้นแบงก์กรุงเทพมีรายการบิ๊กล็อตในกระดานต่างประเทศ มูลค่า 1.9 พันล้าน ด้วยราคาซื้อขายที่สูงกว่าในกระดาน ขณะที่โบรกเกอร์ประเมินกำไรครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นธนาคารกรุงเทพ (BBL) ปิดการซื้อขายที่ 181.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.28% มูลค่าการซื้อขาย 620 ล้านบาท ขณะเดียวกัน มีรายการบิ๊กล็อตหุ้นธนาคารกรุงเทพ (BBL-F) จำนวน  10,064,700 หุ้น ราคาเฉลี่ย 189.00 บาท รวมมูลค่า 1,902.22 ล้านบาท 

ฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุว่าถึงแนวโน้มผลประกอบการ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ว่า สินเชื่อในครึ่งปีหลังปี 2560 จะขยายตัวดีขึ้น เพราะความต้องการใช้สินเชื่อจากโครงการภาครัฐดีขึ้น โดยบางส่วนได้มีการจ่ายฟรอนท์เอนท์ฟีแล้วในไตรมาส 1 ปี 2560 ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยประมาณการว่าสินเชื่อปีนี้จะโต 4% เทียบกับเป้าหมายของ BBL ที่ 4-6%

รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตอ่อนลงใน 2H60 ทั้งนี้รายได้ค่าฟีเพิ่มขึ้นแกร่งใน 1Q60 เพราะได้ฟรอนเอนท์ฟีของสินเชื่อบางโครงการรัฐเข้ามาหลังจากที่โครงการลงทุนขนาดใหญ่มีความคืบหน้ามากขึ้น อย่างไรก็ตามการเติบโตของรายได้ประเภทนี้ใน 2H60 จะอ่อนลงแต่ก็ได้รับการชดเชยด้วยสินเชื่อที่ขยายตัวดีขึ้น เรามีสมมติฐานรายได้ค่าฟีปี 60 เติบโต 5% เท่ากับที่ธนาคารตั้งเป้าหมายไว้

ในส่วนของเอ็นพีแอล (NPL) ยังคงเพิ่มต่อในช่วงที่เหลือและคาดว่าจะ Peak ในปีนี้ โดยในไตรมาส 1 ปี 2560 ระดับ NPL สูงขึ้น 13% จากไตรมาสก่อนหน้า ทำให้ NPL Ratio เพิ่มเป็น 3.5% ในสิ้นมี.ค. 2560 โดยหลักมาจากลูกค้ากลุ่ม SME และสินเชื่อตกชั้น ทั้งนี้ ผู้บริหารคาดว่า NPL จะยังสูงขึ้นต่อและ Peak ในราวไตรมาส 4 ปี 2560  

อย่างไรก็ดี ธนาคารยังคงเป้าหมายไว้ตามเดิมในด้านการตั้งสำรองฯ ฝ่ายวิจัยจึงปรับคำแนะนำเป็นถือ (เดิมซื้อ) ปัจจัยเสี่ยง คือ การลงทุนที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด เศรษฐกิจซบเซามากกว่าคาดทำให้ NPL และสำรองค่าเผื่อฯสูงกว่าที่คาดไว้

ด้านฝ่ายวิจัย บล.ทิสโก้ ประเมินกลุ่มธนาคาร กรณีลดอัตราดอกเบี้ย MRR ว่า กำไรปี 2560 (คาดการณ์) ของหุ้นกลุ่มแบงก์จะได้รับผลเชิงลบราว 5-11% จากการลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.50% เพียงขาเดียว แต่หากมีการลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงด้วย 0.25% คาดผลกระทบต่อกำไรจะลดลงเพียง 1-8% เท่านั้น ทั้งนี้ จะรอข้อมูลจากธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งว่ามีสินเชื่อที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย MRR ที่แท้จริงประมาณเท่าไร และรอติดตามว่าจะมีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทอื่นตามมาหรือไม่ เพื่อลดต้นทุนเงินทุนลง ก่อนที่จะมีการปรับประมาณการกำไรของหุ้นในกลุ่มธนาคาร หุ้นที่เราชอบมากที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ คือ BBL

ขณะที่ บล.ฟิลลิป ระบุว่า ยังให้น้ำหนักลงทุนปกติในกลุ่มธนาคารโดยมองว่าสินเชื่อน่าจะเร่งตัวขึ้นได้ในช่วงที่เหลือของปี อย่างไรก็ตาม มองว่ายังมีความเสี่ยงที่ NPL จะยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อได้ในไตรมาส 2 ปี 2560ยังคงเลือก TISCOเป็นหุ้น Top pick ของกลุ่มถึงแม้ว่าสินเชื่อของ TISCO ยังคงหดตัว แต่ต้นทุนทางการเงินที่ลดลงยังทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิยังเพิ่มขึ้น และ NPL ยังคงลดลงได้อย่างต่อเนื่อง