รัฐเร่งสร้างสมดุลศก. ผ่านนโยบายประเทศไทย4.0

รัฐเร่งสร้างสมดุลศก. ผ่านนโยบายประเทศไทย4.0

"อุตตม" เผยรัฐบาลเร่งสร้างสมดุลเศรษฐกิจ ผ่านนโยบายประเทศไทย 4.0 ใน 4 มิติหลัก หนุนวิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอี เพิ่มรายได้เข้าท้องถิ่น

นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยถึงแผนการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยผ่านการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนว่า นโยบายหลักของรัฐบาลชุดนี้ก็คือการปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจของไทยให้มีความสมดุล ระหว่างเศรษฐกิจที่พึ่งพาตลาดต่างประเทศ และเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่จะเน้นให้ธุรกิจในท้องถิ่น และวิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอี มีรายได้เพิ่มขึ้น ผ่านการการเพิ่มเทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมทั้งการขยายโอกาสในการเข้าถึงตลาด ผ่านทางนโยบายประเทศไทย 4.0 ผ่านการขับเคลื่อน 4 มิติ หลัก ได้แก่ 1. ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะเส้นทางคมนาคม ระบบรถไฟ ถนน ท่าเรือ และสนามบิน เพราะสิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นในการยกระดับประเทศให้ก้าวพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว และยังเป็นการกระจายโอกาสให้ท้องถิ่นต่างๆเชื่อมโยงไปสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น

2. การสนับสนุนด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะในส่วนของวิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอี และกลุ่มสตาร์ทอัพ เพื่อยกระดับเทคโนโลยีการผลิต สร้างนวัตกรรมให้กับสินค้าในการบุกตลาดต่างประเทศ 3. พัฒนาวิสาหกิจชุมชน และไมโครเอสเอ็มอี ซึ่งผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ จะช่วยเพิ่มรายได้โดยตรงให้กับท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศ และให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จากเดิมที่เศรษฐกิจไทยจะขับเคลื่อนจากธุรกิจขนาดใหญ่เพียงส่วนเดียว ซึ่งจะช่วยลดช่องว่างทางเศรษฐกิจของไทยได้อย่างยั่งยืน

"รัฐบาลได้กำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายในการส่งเสริมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งใหญ่มาจากฐานการต่อยอดจากจุดแข็งของประเทศ เช่น ภาคการเกษตร จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเพิ่มการแปรรูปสินค้าเกษตร และการแปรรูปอาหาร จากเดิมที่เน้นในการขายแต่สินค้าวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะยกระดับไปสู่เศรษฐกิจชีวภาพที่เป็นสินค้ามูลค่าสูงจำพวกอาหารเฉพาะกลุ่ม เครื่องสำอาง และพลาสติกชีวภาพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตร และอุตสาหกรรมการเกษตรในท้องถิ่น"

4. พัฒนาคนไทย 4.0 ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสูงสุด เพราะการพัฒนาด้านต่างๆของประเทศจะต้องเริ่มจากคน ดังนั้นจึงจะต้องยกระดับคนไทยให้มีทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยี และให้คนไทยทุกระดับและทุกอาชีพตระหนักถึงกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะสามารถรับมือ และฉวยโอกาสใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เพื่อให้เศรษฐกิจชุมชนได้เติบโต ปรับเปลี่ยนจากเดิมที่ความเจริญจะกระจุกอยู่ในกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่ไม่กี่แห่ง

โดยในแนวทางนี้ รัฐบาลได้มุ่งพัฒนาเชิงพื้นที่สร้างความเจริญใหม่ๆให้กับชุมชนผ่านแนวทางความร่วมมือประชารัฐประสานความร่วมมือจากภาครัฐ ประชาชน ภาคเอกชน ที่จะลงลึกตั้งแต่ระดับจังหวัด ชุมชน และหมู่บ้าน ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้จัดทำโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (ซีไอวี) โดยได้นำร่องไปแล้ว 9 หมู่บ้าน และในปีนี้จะขยายให้ได้ 67 หมู่บ้านครอบคลุมทั่วประเทศ ภายใน 4- 5 ปี โดยจะนำเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆเข้าถึงชุมชน ยกระดับสินค้า และบริการของชุมชนให้ส่งไปขายได้ทั่วประเทศ และตลาดส่งออก ผ่านการทางยกระดับมาตรฐานด้านต่างๆ รวมทั้งประสานงานร่วมกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ในการวิจัยพัฒนาสินค้า และบริการ รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว ในการดึงนักท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศ และต่างชาติ เข้ามาท่องเที่ยวในหมู่บ้าน ซีไอวีเหล่านี้ ขยายตลาดสินค้าให้กว้างออกไปมากขึ้น

นอกจากนี้ รัฐบาลจะพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ เพื่อให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเอสเอ็มอีในทุกพื้นที่ เชื่อมโยงการค้าไปสู่ตลาดทั่วประเทศ และตลาดโลกได้ง่าย และรวดเร็ว เปิดโอกาสให้ธุรกิจชุมชนเปิดตลาดต่างประเทศได้ด้วยตัวเอง โดยภาครัฐจะให้ความสนับสนุนในทุกๆด้านอย่างใกล้ชิด