ที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อ 26 มิ.ย.59 กรณีเกิดเหตุทะเลาะวิวาทบริเวณหน้าสนามกีฬากลางนครศรีธรรมราช และผู้เสียหายคือนางรัตนา บุญพา อายุ 43ปี ถูกคู่กรณีราดด้วยน้ำเดือดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยนางสาวสุดารัตน์ เทียนชัย บุตรสาวของผู้เสียหาย และนางทิพวัลย์ พุฒแก้ว ลูกจ้างของผู้เสียหาย ได้เข้าชี้จุดที่เกิดเหตุโดยระบุว่าจุดเกิดเหตุนั้นเป็นร้านขายเครื่องดื่มของนางรัตนา โดยคู่กรณีได้ยกพวกมาจากร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ใกล้กันมารุมทำร้าย 2 คน ใช้ไม่ตีศีรษะจนแตกและล้มลงไปก่อนที่ หนึ่งในนั้นได้ไปคว้าหม้อน้ำร้อนที่กำลังตั้งอยู่บนเตาในร้านขายอาหารประเภทยำ มาราดใส่นางทิพวัลย์ พร้อมทั้งข่มขู่ผู้ที่จะเข้ามาให้การช่วยเหลือ
นางสาวสุดารัตน์ เทียนชัย บุตรสาวของผู้เสียหายยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการสอบสวนมารดาของเธอ แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านมาถึง 16 วันแล้ว ขณะที่สภาพอาการของมารดานั้นอยู่ในขั้นบาดเจ็บสาหัสผิวหนังเปื่อยพุพองจากน้ำร้อนที่ถูกราดใส่ร่างกายมากกว่า 80 เปอร์เซ็น แพทย์ต้องให้ยาแก้ปวดผ่านทางเส้นเลือดทุก 3 ชม.และหวั่นวิตกอาการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งได้โทรศัพท์ไปสอบถามตำรวจกลับไม่มีความคืบหน้า นาวสาวสุดารัตน์ระบุด้วยว่าอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนดำเนินคดีเนื่องจาก 16 วันแล้วไม่มีความคืบหน้าใดๆเลยขณะที่มารดาต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้
เวลาไล่เลี่ยกันมีรายงานเพิ่มเติมว่าคู่กรณีของนางรัตนา คือนางสาวสุวรา โชจรูญเดชและนางสมศรี โชจรูญเดช สองแม่ลูก ได้เข้าพบกับ ร.ต.อ.อภินันท์ พลศร พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีตามหมายเรียก โดยพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้มีการบันทึกภาพบนสถานีตำรวจอย่างเด็ดขาดและปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆกับผู้สื่อข่าว
อย่างไรก็ตามภายหลังนางสาวสุวรา ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์โดยอ้างว่าเป็นการทะเลาะวิวาท และคู่กรณีมีมีดที่จะทำร้ายขณะที่นางรัตนา มารดาของนางสาวสุวราอ้างว่าได้เข้าให้การช่วยเหลือ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกแทง ส่วนน้ำร้อนนั้นเป็นการไปปัดโดยไม่เจตนา
