ย้ำชัด!! ห้ามส่งสิ่งผิดกฎหมายผ่าน 'ไปรษณีย์'

นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า การฝากส่งยาเสพติด และอาวุธทางไปรษณีย์นั้น เป็นการกระทำที่ “ผิดกฎหมาย” เนื่องจากเป็นหนึ่งในสิ่งของต้องห้ามฝากส่งตามพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ.2477 และผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งทางไปรษณีย์ไทยเองนั้น มีมาตรการความปลอดภัยและป้องกันการลักลอบฝากส่งสิ่งของต้องห้ามและผิดกฎหมายที่เคร่งครัด ประกอบด้วย การรณรงค์ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการให้แสดงบัตรประจำตัวประชาชนแก่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งในการฝากส่งสิ่งของทางไปรษณีย์ ซึ่งเป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอีกทางหนึ่งด้วย การติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ภายในที่ทำการไปรษณีย์
ทั่วประเทศ ที่จะสามารถตรวจสอบถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการฝากส่งสิ่งของผิดกฎหมาย เพื่อส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีต่อไป ตลอดจนการใช้เครื่องสแกนวัตถุระเบิดแบบ X-ray ณ ศูนย์ไปรษณีย์ทั่วประเทศ

จากมาตรการฯ ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ไปรษณีย์ไทย ขอประกาศย้ำชัดว่า หากผู้กระทำผิดฝ่าฝืนส่งยาเสพติด อาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมายอื่นๆ ผ่านเส้นทางไปรษณีย์นั้น ไปรษณีย์ไทย สามารถตรวจสอบ และสืบหาผู้กระทำผิด เพื่อส่งต่อเรื่องให้กับทางสำนักงานตำรวจที่รับผิดชอบด้านสิ่งของต้องห้ามและสิ่งผิดกฎหมายในการดำเนินคดีต่อไปได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม สำหรับทาง ไปรษณีย์ไทย ได้ประกาศย้ำถึงสิ่งของต้องห้ามฝากส่งทางไปรษณีย์ 7 ประเภท ได้แก่ 1. สัตว์มีชีวิต 2. สิ่งเสพติด 3. สิ่งลามกอนาจาร 4. วัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟ 5. วัตถุมีคมที่ไม่มีเครื่องหุ้มห่อ ป้องกัน 6. ธนบัตร และ 7. สิ่งของปลอมแปลงหรือลอกเลียนแบบโดยละเมิดลิขสิทธิ์

นอกจากนี้ สำหรับการฝากส่งสิ่งของเข้าสู่เส้นทางไปรษณีย์ทางอากาศนั้น ยังมีรายชื่อสิ่งของต้องห้ามตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศเพิ่มเติมอีก 5 ชนิด ดังนี้ 1. สารออกซิไดซ์และออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์ 2. ก๊าซหรือกระป๋องสเปรย์ 3. สารกัดกร่อน 4. วัตถุและสารต้องห้ามในการขนส่งทางอากาศ อาทิ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์ที่มีการติดตั้งแบตเตอรี่ และ 5. อาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธ ซึ่งมีรูปร่างและลักษณะอันน่าจะทำให้หลงเชื่อว่าเป็นอาวุธ เช่น ปืนและเครื่องกระสุน ปืนไฟแช็ค หรือปืนเด็กเล่น เป็นต้น โดยหากมีการตรวจพบการฝ่าฝืน จะมีโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 80,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นางสมร กล่าว

ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบและเข้มงวดในทุกมาตรการการป้องกันการส่งสิ่งของผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และทางไปรษณีย์ไทยเองนั้น ยินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามวัตถุผิดกฎหมายทุกประเภท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขจัดปัญหาเหล่านี้จากประเทศไทยต่อไป