Retail Market Monitor (26 มิ.ย.60)

Retail Market Monitor (26 มิ.ย.60)

ค่าเงินสหรัฐอ่อนลง บวกต่อเก็งกำไรรายตัว และ Window dressing

คาดตลาดยังมีแนวโน้มฟื้นตัวหรือซึมขึ้นจากค่าเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง ส่งผลบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งนี้ค่าเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงจากผิดหวังตัวเลขเศรษฐกิจและราคาโภคภัณฑ์ที่ซึมลงแสดงถึงมุมมองตลาดที่ไม่คาดหวังว่าเงินเฟ้อจะมาเร็วนัก รวมทั้งนักลงทุนบางส่วนคาดการขึ้นดอกเบี้ยอาจไม่เกิดขึ้นอีกแล้วในปีนี้ หรือหากเกิดขึ้นเร็วสุดจะเป็นช่วงธันวาคม สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้หุ้นที่เติบโตด้วยปัจจัยภายนอก (External play) ไม่มีปัจัจยผลักดันที่เด่นชัด และจะทำให้ตลาดกลับมามองหุ้นบริโภคในประเทศ (Domestic play)ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองครึ่งปีหลังของเรา ทั้งนี้ราคาข้าวที่สูงขึ้น 18% จะสนับสนุนการฟื้นตัวของกำลังซื้อ และต่อการเก็งกำไรหุ้นรายตัวในช่วงปิดบัญชีกลางปี (window dressing) ทั้งนี้ตลาดเน้นผลักดันหุ้นที่ยังคงปรับตัวขึ้นน้อย (Underperform) ในหลายๆกลุ่ม และเริ่มผลักดันหุ้นแถว 2 ที่ไม่ใช่หุ้นหลักของแต่ละกลุ่มขึ้น โดยภาพรวมเรายังคงกลยุทธ์เลือกหุ้นรายตัวในกลุ่มที่เกี่ยวกับการบริโภคในประเทศเป็นหลัก โดยเน้นกลุ่ม โรงแรม ค้าปลีก (บางตัว) รับเหมา และเช่าซื้อ อาทิ MINT, ERW, MAKRO*, CPN, SVOA*, STEC, TPOLY*, GCAP*, AMANAH*, TSR, MONO* และ MACO*

กลุ่มเน้นปัจจัยภายนอกไม่โดดเด่น โดยเราแนะนำเพียง selective buy ปิโตรเคมี IRPC, IVL // ประเมินดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1578-1590 จุด การเก็งกำไรควรเลือกหุ้นที่ยัง Laggard และตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง **ระวังแรงทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนก่อนการจับฉลากวันนี้**// หุ้นแนะนำ MONO*, RATCH, TSR //เก็งกำไร SVOA*, MACO*, TLUXE*

ประเด็นการลงทุน

PMI สหรัฐฯ ต่ำสุดรอบ 3 เดือน - ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หลังจากแตะระดับ 53.6 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ก่อนหน้านี้

โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นเล็กน้อยจากเงินเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่าลง น้ำมันยังคงซื้อขายในระดับต่ำจากแรงกดดันหลายๆอย่าง ทั้งจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น และการผลิตน้ำมันน้ำมันเพิ่มจากไนจีเรียและลิเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับยกเว้นจากข้อตกลงปรับลดการผลิต ราคาสินค้าเกษตร ยางและข้าวฟื้นตัว ค่าระวางเรือ (BDI) ปรับเพิ่มขึ้น 15 จุด (+1.75%) ส่งผลบวกต่อจิตวิทยาการเก็งกำไร PSL, TTA, RCL

หยุดจ่ายก๊าซ JDA-A18 - เกิดเหตุขัดข้องทำให้จำเป็นต้องหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่ง JDA-A18 ส่งผลให้ โรงไฟฟ้าจะนะ เครื่องที่ 1 ขนาดกำลังผลิต 710 MW ต้องปรับเปลี่ยนไปใช้น้ำมันดีเซลแทน ทั้งนี้แหล่งผลิตดังกล่าวเป็นของ Petronas และ Trition จึงไม่ส่งผลกระทบต่อ PTTEP แต่อย่างใด

NOK – วันนี้ NOK-W1 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก

สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ: 26 ก.ค. – ประกาศรายชื่อจับฉลากโซลาร์ราชการ-สหกรณ์/ ก.ค. – อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้กรีซ / ภายใน 20 ก.ค. – ผลประกอบการไตรมาส 2/60 กลุ่มธนาคารพาณิชย์

แนวรับ 1578/แนวต้าน : 1585-1590 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)


หุ้นแนะนำ

• MONO* (4.2) : ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 4/60 และฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 อาจไม่ดีนักจากธุรกิจภาพยนตร์ แต่เราให้น้ำหนักการฟื้นตัวของธุรกิจโทรทัศน์ดิจิตอลจะผลักดันการฟื้นตัวและกลับมามีกำไรในปีนี้

• RATCH (62) : ได้รับการบรรจุเข้า SET50 มีผล 2H60 และผลการดำเนินงาน 2Q60 ดีขึ้นจากโรงไฟฟ้าหงสา, ผ่านคุณสมบัติโครงการโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ในประเทศ 5 MW, อยู่ระหว่างศึกษาการเข้าซื้อโครงการพลังงานต่างแดน คาดว่าจะได้ข้อสรุป 3Q60

• TSR (7) : คาดการจำหน่ายเครื่องกรอบน้ำฟื้นตามการบริโภคที่ฟื้นตัว ขณะที่ผลการดำเนินงานคาดดีขึ้นจากหนี้เสียที่ผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 4/59

• หุ้นมีประเด็น: SVOA* (ผลการดำเนินงานฟื้นตัวจากการเข้าสู่ช่วงลงทุนของธนาคารพาณิชย์ และการลดต้นทุนของบริษัทลูกอย่าง IT เห็นผล) / MACO* (ธุรกิจป้ายโฆษณานอกบ้านคาดจะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง และเราคาดบริษัทจะยังเน้นการเติบโตด้วยการเข้าซื้อกิจการ) / TLUXE* (ธุรกิจอาหารสัตว์น้ำมีแนวโน้มฟื้นตัว ขณะที่รับรู้รายได้จากการผลิตไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพเพิ่มขึ้น)