MORNING CALL ACTION NOTES (26 มิ.ย.60)

ตลาดหุ้นไทยวันก่อนแกว่งตัวในกรอบแคบๆเนื่องจากขาดปัจจัยกระตุ้นการลงทุน ส่งผลให้ภาวะตลาดส่วนใหญ่เป็นการเก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่างบ Q2/17 จะเติบโตขึ้น รวมถึงหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,582.36 จุด (+1.45 จุด) ด้วย Vol. 3.9 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -975 ลบ. TFEX Net +2,877 สัญญา และตลาดตราสารหนี้ +3,010 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ รัฐบาลตั้งเป้าเงินลงทุนใน EEC ไม่ต่ำกว่า 5 แสนลบ.ภายใน 5 ปี ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ อุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ และยานยนต์ไฟฟ้า

+ คมนาคม เผยบอร์ดสภาพัฒน์นัดพิจารณาโครงการรถไฟไทย-จีน วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท วันที่ 29 มิ.ย.ก่อนเสนอครม.ต้นก.ค.

+/- ตลาดหุ้น DJ อ่อนตัวลงเล็กน้อย หลัง PMI เบื้องต้นรวมภาคการผลิตและบริการของสหรัฐเดือนมิ.ย. ร่วงลงสู่ 53.0 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

+ ราคาน้ำมันรีบาวด์เล็กน้อยล่าสุด 43.3 US/Barrel เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง แม้ว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 11 แท่น สู่ 758 แท่น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น 23 สัปดาห์ติดต่อกัน

+/- Fund Flow ต่างชาติผันผวนตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.เป็น Net Sell ราว 5 พันลบ. แต่เงินบาทแข็งค่าล่าสุด 33.9 Bath/USD

** PTTEP มีแผนซื้อหุ้นกู้คืน ก.ค.เพื่อบริหารจัดการโครงสร้างทางการเงินพร้อมเตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่สกุลดอลลาร์

** 27 มิ.ย. ติดตามสุนทรพจน์ของประธานธนาคารเฟด ที่กรุงลอนดอน

** ติดตามการทำ Window Dressing ปิด Q2/60 ช่วงปลายเดือนมิ.ย.

ภาวะตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวก/ลบคละเคล้า โดยประเด็นบวกจากการเร่งการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ และการทำ Window Dressing ปิด Q2/60 ในช่วงสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม Fund Flow ที่ผันผวนทำให้ทิศทางไม่ชัดเจน ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,575 – 1,590 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy

- กลุ่มรับเหมา, สายการบิน , EPG , TASCO ได้ประโยชน์ต้นทุนราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง

- SYNEX SIS COM7 HARN MGT BIZ ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า

- กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS BH) และค้าปลีก (GLOBAL BJC) คาดเป็นเป้าหมายการทำ Window Dressing เนื่องจากราคา Underperform SET

- GUNKUL SUPER ETE PSTC SOLAR ลุ้นจับสลาก Solar Farm สหกรณ์119 MW และราชการ100 MW (วันนี้ 26 มิ.ย.)

- EA เผยโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม จ.นครศรีธรรมราช ขนาด 45 MW เริ่มรับรู้รายได้หลัง COD วันที่ 23 มิ.ย.

หุ้นแนะนำพิเศษ

MGT (ราคาปิด 3.06 บาท ราคาเหมาะสม 3.47 บาท )

- ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 60 เติบโต 20% โดยใช้การตลาดเชิงรุกเพิ่มจำนวนพนักงานขายและเริ่มเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 2 แห่งที่จ.สงขลาและจ.นครพนมเพื่อรุกตลาดผู้ผลิตยางพารา และได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับปูนซีเมนต์ในการก่อสร้างตึกสูง นอกจากนี้ปี 61 เตรียมเปิดสาขาในพม่าและกัมพูชา

- คาดกำไรปี 60 ที่ 52 ลบ. (+58%YoY) และปี 61 ที่ 65 ลบ. (+27%YoY) ตามอุตสาหกรรมพลาสติกที่ขยายตัวมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น และสามารถรักษาระดับกำไรขั้นต้นได้ที่ 27% อีกทั้งนโยบายของการขยายตลาดเชิงรุกของผู้บริหารทำให้ปีนี้มีโอกาสเติบโตได้ตามเป้า

หุ้นมีข่าว

(+) BIZ (ราคาปิด 4.52 ซื้อ ราคาเหมาะสม 5.13) เนื้อหอมกองทุนตบเท้าขอข้อมูลเพียบ เชื่อธุรกิจเติบโตดี ใส่เกียร์เจรจาขายเครื่องรักษามะเร็งภาครัฐและเอกชน กว่า 10 โครงการ หวังปิดดีลเร็วๆนี้ โชว์งานในมือกว่า 1.5 พันล้านบาท (ที่มาทันหุ้น)

     ความเห็น เราคาดไตรมาส 2 รายได้จะเติบโตสู่ 210 ล้านบาท +328%QoQ เนื่องจากมีการส่งมอบเครื่องฉายรังสีให้เครือโรงพยาบาลกรุงเทพมูลค่า 169 ล้านบาท และเริ่มรับรู้รายได้จากการก่อสร้างอาคารของงานโรงพยาบาลจุฬา ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรให้เติบโตสู่ระดับ 24 ล้านบาท +488%QoQ

(+) ETE (ราคาปิด 4.16 ซื้อ ราคาเหมาะสม 5.06) ในวันน้มีการจับฉลาก Solar สหกรณ์และราชการซึ่งทางบริษัทได้ร่วมมือกับ 8 สหกรณ์กำลังการผลิต 40 MW โดยจะทราบผลการจับฉลากในวันที่ 28 มิ.ย. ฝ่ายวิจัยคาดว่าทุกๆ กำลังการผลิต 1 MW จะส่งผลบวกต่อผลประกอบการของบริษัทราว 1.4-1.7 ล้านบาทซึ่งจะเป็น upside ต่อราคาหุ้น เพราะในปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตเพียง 16.45 MW

(-) PTT (ราคาปิด 380 Bloomberg Consensus 425.26) เร่งประสานผู้ผลิตตรวจสอบเหตุแหล่ง JDA-A18 หยุดผลิต โดยบริษัทพร้อมจัดหาเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าภาคใต้ รวมถึงก๊าซเอ็นจีวีในพื้นที่ และก๊าซธรรมชาติในส่วนที่ส่งมายังภาคตะวันออกด้วย

    ความเห็น แหล่ง JDA –A18 ผลิตก๊าซฯได้วันละ 440 ล้านลูบาศก์ฟุตต่อวันหรือคิดเป็น 9-10%ของกำลังการผลิตรวม อย่างไรก็ตาม ปตท. คาดว่าจะใช้เวลาซ่อมประมาณ 3 วัน ซึ่งเรามองว่าเป็นการหยุดจ่ายก๊าซฯในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้ไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการของบริษัท

(+) EA (ราคาปิด 34.50 Bloomberg Consensus 29.89) เผยโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม จ.นครศรีธรรมราช ขนาด 45 MW เริ่มรับรู้รายได้หลัง COD วันนี้

- TFD ขายหุ้นเพิ่มทุน PP จำนวน 250 ล้านหุ้นให้นักธุรกิจไต้หวัน-ไทย 3 ราย 2 บ./หุ้นรับ 500 ลบ.ใช้ทำโครงการใหม่

- ก.ล.ต.เดินหน้าแก้ปัญหาทั้งหุ้น EARTH และ POLAR มีผู้สอบบัญชีเป็นกรณีพิเศษที่มีขนาดใหญ่แห่งใดแห่งหนึ่ง หรือ Big 4 และให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 30 วัน (ที่มาข่าวหุ้น)

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ -2.53 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับลง 2.53 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 21,394.76 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.80 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 2,438.30 จุด ดัชนี Nasdaq บวก 28.56 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 6,265.25 จุด หลังจากที่มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-บริการของสหรัฐ ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนในเดือนมิ.ย. ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัว ด้านดัชนี Nasdaq ก็ปรับตัวขึ้น โดยได้แรงบวกจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.27 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 43.01 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันถูกลงและมีความดึงดูดมากขึ้นสำหรับผู้ที่ถือเงินสกุลอื่นๆ

ส่องหุ้น

- PSL แนวรับ 11.00-10.80 บาท แนวต้าน 11.70-11.80 บาท

- ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์และผ่านขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 8 วันได้และกำลังจะทำ New high ในขณะที่วอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นมากและ MACD เริ่มดีดกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 11.00-10.80 บาทซะก่อน มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้แถวๆ จุดสูงสุดเดิมในรอบ 3 เดือนแถวๆ 11.70-11.80 บาทต่อไป