‘ธีรนันท์ ศรีหงส์’ ในบทมือบริหารการเปลี่ยนแปลง

“ภายใต้การทำงานของ บริษัท เซลาร์ คอนซัลติ้ง จำกัด ตอนนี้ กำลังฟอร์มทีม ทำงานทางด้านคอนซัลติ้งให้กับองค์กรธุรกิจต่างๆ ในการ Transformation ไปสู่ดิจิทัล ว่าต้องใช้อะไรบ้างเพื่อให้ธุรกิจเดินไปข้างหน้า”

ธีรนันท์ ศรีหงส์ อดีตผู้บริหารธนาคารกสิกรไทย ที่วันนี้รั้งตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซลาร์ คอนซัลติ้ง จำกัด ได้กล่าวถึงสิ่งที่กำลังทำอยู่อย่างมุ่งมั่นในวันนี้

หลังโบกมือลาจากกสิกรไทย ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน สิ่งที่ ธีรนันท์ กำลังก่อร่างสร้างธุรกิจซึ่งยังอยู่ในสิ่งที่สนใจนั่นก็คือ การเปลี่ยนองค์กรไปสู่สิ่งที่ดีกว่าด้วยเทคโนโลยี

จากมุมมองผู้บริหารมืออาชีพในองค์กรใหญ่ที่วันนี้ผันตัวเองมารับบทเป็นที่ปรึกษาให้กับธุรกิจต่างๆ ธีรนันท์ ได้ถ่ายทอดมุมมองถึงการเคลื่อนธุรกิจองค์กรและธุรกิจเอาไว้อย่างน่าสนใจ

องค์กรธุรกิจในวันนี้ต้องพร้อมรับมือกับสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่องค์กรธุรกิจถูกท้าทายด้วยโลกของดิจิทัล เทคโนโลยี สิ่งที่ผู้บริหารต้องหันมามองและให้ความสำคัญ ก็คือ ทักษะของคนในองค์กรเพียงพอแค่ไหนกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในครั้งนี้

ที่สำคัญต้องทำตัวเองให้พร้อมรับกับโลกใหม่ที่ต่างจากสิ่งที่เคยเจอมาอย่างสิ้นเชิง

ธีรนันท์ ใช้คำว่า Professional ประเด็นที่ต้องปลูกฝังให้กับทุกคนในองค์กร พร้อมกันนั้นการทำงานทุกอย่างก็ต้องมาพร้อมกับความเร็ว

ในอีกด้าน ข้อมูลที่ดีจะสร้างธุรกิจใหม่และความรู้ใหม่

หลายครั้งที่องค์กรธุรกิจต้องเจอกับความยากที่จะก้าวข้ามไปให้ได้ เพราะในวันที่ต้องเร่งทำธุรกิจเพื่อคาดหวังถึงผลกำไรที่จะเกิดขึ้น แต่อีกด้านก็ต้องสร้างนวัตกรรมใหม่เพื่อทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

จุดนี้เองที่ ธีรนันท์ บอกว่าเป็นเรื่องที่ยาก และอาจเป็นจุดที่ทำให้เห็นต่างกันออกไป ขณะที่ในมิติของคน โดยเฉพาะคนเก่งๆ จะเลือกที่จะทำงานในส่วนไหน นี่เองเป็นประเด็นที่องค์กรต้องมอง

บางองค์กรมีความต้องการอย่างมากในการหา Data Scientist คำถามต่อมาคือ แล้วจะหามาจากไหนเพื่อให้ได้เท่ากับจำนวนคนที่ต้องการ

ความยากอยู่ที่การบริหารโลกทั้งสองให้อยู่ด้วยกันได้อย่างไร

จากประสบการณ์การบริหารองค์กรขนาดใหญ่ ธีรนันท์ แนะให้ตั้งคำถามกับตัวเองว่าองค์กรธุรกิจต้องหาว่าอะไรคือสิ่งที่จำกัดเราอยู่ ทำให้ไม่สามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ได้มากเท่ากับที่โลกเดินไป 

ทำอย่างไรจะสร้าง Digital Talent ให้มากพอ และการจะออกแบบองค์กรให้สอดคล้องกับโลกดิจิทัล

ทำอย่างไร จะสร้าง New S-Curve ให้เกิดขึ้นในองค์กร

และทำอย่างไรจะสามารถสร้าง Mini Startup ให้เกิดขึ้นในองค์กรขนาดใหญ่

ทั้งนี้ การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทั้ง เทคโนโลยี ตลาด และสภาพการแข่งขันเป็นโจทย์ใหญ่ที่องค์กรธุรกิจต้องเผชิญ และตัดสินใจว่าจะเดินไปในทิศทางใดภายใต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น

องค์กรธุรกิจต้องทำตัวเหมือนกับสิ่งมีชีวิต เรียนรู้ที่จะปรับตัวตามสถานการณ์ และต้องปรับให้เร็วเหมือนกิ้งก่า ไม่ใช่แบบไดโนเสาร์ 

อีกทั้งการปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงนั้น ต้องทำทั้ง Test & Learn

บางธุรกิจวางบทบาทและภารกิจตัวเองเอาไว้อย่างชัดเจน อยู่ในกรอบเดิมๆ ทำให้การทำสิ่งใหม่ๆ ในแต่ละครั้งต้องใช้เวลาเป็นปี ขณะที่องค์กรสมัยใหม่ เช่น สตาร์ทอัพ ใช้เวลาเพียง 2เดือน 5 เดือนก็พร้อมที่จะปรับเพื่อให้ทันกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง

และจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดเลยหากไม่มีการปรับจาก Traditional Mindset ไปสู่ Digital Mindset

คำถามที่พาองค์กรเดินไปข้างหน้า

ธีรนันท์ ศรีหงส์ เริ่มงานกับธนาคารกสิกรไทยในปี 2531 จากนั้นก็รับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ในปี 2556 รวมทั้งการเป็นประธาน KASIKORN Business-Technology Group หรือ KBTG  หน่วยงานที่ทำด้านการบริหารและพัฒนานวัตกรรม 

ขณะที่งานที่รับผิดชอบในวันนี้ กับ บริษัท เซลาร์ คอนซัลติ้ง จำกัดถือเป็นการออกสตาร์ทครั้งแรกในบทบาท “ผู้ประกอบการ”  

แน่นอนว่า ทุกองค์กรจะมีไสตล์ และแนวทางการทำงานที่แตกต่างกันไป 

แต่ในภาพรวมแล้ว องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัว และสร้างเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน

พร้อมกับคำถามตั้งต้นที่ว่า ทำอย่างไรจะให้องค์กรยังคงความสามารถในการแข่งขัน และขยายตลาดใหม่ๆได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนหนึ่งในความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล

และที่ท้าทายก็คือ การผลักดันให้บุคลากรในองค์กรหลุดออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ

องค์กรธุรกิจต้องปรับตัวอีกมากในวิธีการทำงาน วัฒนธรรมการทำงาน หรือกระบวนการการทำงานใหม่ๆ ถือเป็นความท้าทาย

องค์กรต้องแปลงความรู้ออกมาเป็นกลยุทธ์และสร้างเป็นแนวทางปฏิบัติให้ได้

องค์กรธุรกิจต้องปรับวิธีการทำงานและ วัฒนธรรมการทำงาน

และอีกหลายเรื่องที่ “ต้องทำ”เพื่อวิ่งให้ทันการเปลี่ยนแปลง

จากนี้ไป การทำธุรกิจแบบเดิมๆๆอาจไม่ใช่คำตอบ