2กรมฯสอบโรงงาน5ศพ 'ซีพีเอฟ' จี้ปลอดภัย-อาชีวอนามัย

2กรมฯสอบโรงงาน5ศพ 'ซีพีเอฟ' จี้ปลอดภัย-อาชีวอนามัย

"กสร.-กรอ." 2กรมจากแรงงาน-อุตสาหกรรม สอบโรงงาน5ศพ "ซีพีเอฟ" จี้ปลอดภัย-อาชีวอนามัย ด้าน "นครบาล" สอบพยานรวบรวมหลักฐานคดีตกบ่อบำบัดเหตุจากอะไร

จากกรณีนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและพนักงานบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ พลัดตกบ่อบำบัดน้ำเสียภายในบริษัทซีพีเอฟ ซอยบางนา-ตราด 20 ถนนบางนา-ตราด ฝั่งขาเข้า แขวงและเขตบางนา กทม. จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย หนึ่งในนั้นคือ น.ส.ปัณฐิกา ตาสุวรรณ หรือน้องหวาย อายุ 23 ปี นิสิตชั้นปีที่ 5 คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมาดูงาน โดยผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี ได้ให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแก่ครอบครัวผู้สูญเสียทุกคนอย่างเต็มที่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น.วานนี้ (25 มิ.ย.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุภายในบริษัท พร้อมระบุว่า ได้เรียกพยานที่อยู่ในวันเกิดเหตุมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งทราบว่าขณะเกิดเหตุพยานไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่ภายหลังเกิดเหตุแล้วได้เข้าไปเห็นสภาพบริเวณจุดเกิดเหตุจึงให้นำชี้สภาพจุดเกิดเหตุเพื่อดูว่าในวันนั้นสภาพที่เกิดเหตุเป็นอย่างไร แต่ทราบว่าพยานไม่เห็นว่าฝาท่อปิดอยู่เพราะพยานเห็นหลังจากเกิดเหตุการณ์ตกลงไปแล้ว อย่างไรก็ตามในจุดดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิดจึงต้องสอบสวนพยานแวดล้อมโดยละเอียดอีกครั้ง

นอกจากนี้ บริเวณดังกล่าวน่าจะมีผู้รับผิดชอบในการดูแลความปลอดภัย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ หากพบว่ามีผู้ใดบกพร่องจะเตรียมพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งนี้สาเหตุของการตายมองได้ 2 กรณี คือ 1.มีผู้ทำให้ตาย โดยแยกออกมาว่าเกิดจากความประมาทหรือเป็นการจงใจที่ทำให้ตาย และ 2.เป็นอุบัติเหตุ ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่ายและจะติดตามสำนวนคลี่คลายให้หายข้อสงสัยทุกประการตามความเป็นจริง

ส่วนบรรยากาศงานศพของน.ส.ปัณฐิกา ตาสุวรรณ หรือน้องหวาย อายุ 23 ปี นิสิตชั้นปีที่ 5 คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการสวดพระอภิธรรมคืนแรกวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีพ่อและแม่ของน้องหวาย รวมทั้งญาติสนิท และเพื่อนเข้าร่วมแน่นขนัดโดยบรรยากาศเต็มได้ด้วยความโศกเศร้า ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์กว่า 10 คนเข้าร่วมพิธีด้วย โดยมีพวงหรีดของผู้บริหารในเครือร่วม 30 พวงรวมทั้งพวงหรีดจากหน่วยงานต่างๆจำนวนมาก

ล่าสุด วันนี้ (26 มิ.ย.) มีรายงานว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน ได้เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุพร้อมลงพื้นที่เพื่อสอบข้อเท็จจริงและดูแลสิทธิประโยชน์ตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ที่ลูกจ้างต้องได้รับและประสานความช่วยเหลือในเบื้องต้นแก่ลูกจ้างและนิสิตด้วย พร้อมทั้งดำเนินการตามกฎหมายหากพบว่าบริษัทไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 รวมทั้งกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานในที่อับอากาศ พ.ศ.2547

ทั้งนี้ กสร.ได้เชิญนายจ้างมาพบเพื่อสอบข้อเท็จจริงกรณีการปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานหรือไม่ ในวันนี้ (26 มิ.ย.)ด้วย

นอกจากนี้มีรายงานว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมทีมงานจากสำนักเทคโนโลยีความปลอดภัยและสำนักเทคโนโลยีน้ำและสิ่งแวดล้อมโรงงาน ได้เข้าตรวจสอบหาสาเหตุแล้ว รวมทั้งอยู่ระหว่างออกคำสั่งให้โรงงานดังกล่าวหยุดประกอบกิจการตามมาตรา 39 (1) เฉพาะระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อปรับปรุงแก้ไข ซึ่งเป็นไปตามพ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 เรื่องความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน และในวันนี้ (26 มิ.ย.)

นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้เชิญนายกสมาคมวิศวกรสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวถึงสาเหตุจากกรณีที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อกฎหมายและการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาและข้อปฏิบัติรวมทั้งมาตรการกำกับดูแลโรงงานด้านความปลอดภัยที่ถูกต้อง