'ศรีวราห์' สั่งด่วน 'สภ.ยางตลาด' ช่วยตัดต้นพะยูงล้มทับบ้าน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีต้นพะยูงล้มทับ บ้านของนางหนึ่งฤทัย สารภัคดี ชาว จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงเย็นของวันที่ 29 เมษายน 2560 ขณะที่อยู่ภายในบ้านกับสามี และหลานชายวัย 6 ขวบ ซึ่งเหตุจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักและมีลมแรงจนทำให้ต้นพะยูง ที่อยู่ข้างบ้านโค่นล้มลงมาทับหลังคาบ้าน จนได้รับความเสียหายและเกี่ยวสายไฟจนขาด มีหลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ และแนะนำให้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและสํานักงานป่าไม้ จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่เข้ามาจัดการ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้ความช่วยเหลือ

ที่ผ่านมา นางหนึ่งฤทัย ถึงกับระบุว่า ไม่กล้าดำเนินการตัดไม้เอง เพราะไม้พะยูงเป็นไม้หวงห้าม จึงกังวลว่าหากตัดเองอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นทำได้เพียงย้ายออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับลูกที่อยู่ใกล้ๆ เพราะกลัวว่าตัวคานจะรับน้ำหนักไม่ไหว และอาจทำให้บ้านพังลงมาได้นั้น 

ล่าสุด พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ภายหลังจากทราบข่าวจากสื่อมวลชนถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านรายนี้ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัย เดช ผบก.ส.4 ให้เร่งไปช่วยเหลืออย่างกับประสบเหตุในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน โดยให้แล้วเสร็จภายใน 1 วัน ซึ่งในกรณีนี้เรียกว่า “ไม้ล้มขอนนอนไพร” คือ ไม้ที่ล้มตายเอง โดยได้ประสานผกก.สภ.ยางตลาด ให้ นางหนึ่งฤทัย สารภัคดี ผู้เสียหาย มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาด

ขณะนี้ผกก.สภ.ยางตลาด ได้นำกระเช้าเข้าไปดำเนินการตัดต้นไม้พะยุง ที่หักโค่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้อาศัยอำนาจตาม ป.วิ.อาญา สั่งการให้มีการตัดต้นไม้ที่ล้ม และสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน แล้วนำไปเก็บรักษายังที่ปลอดภัย พร้อมกับทำบัญชีควบคุมไม้ไว้ เพื่อนำส่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่รับผิดชอบต่อไป 

สำหรับไม้พะยูง เป็นไม้ที่ห้ามตัดเองโดยไม่ได้รับอนุญาต นี่เป็นกฎหมายเพื่อป้องกันขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า แต่ก็บังคับใช้กับทุกกรณี ทำให้ชาวบ้านในจังหวัดกาฬสินธุ์ไม่กล้าตัดไม้พะยูง แม้ว่าจะล้มทับบ้านที่อยู่อาศัยนานกว่า 3 เดือน เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 หากมีการลักลอบตัด จะต้องโทษจำคุก2-5 ปี ปรับ 10,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ