‘นกสกู๊ต-แอร์เอเชีย’ปักธงเส้นทางเอเชียรับดีมานด์พุ่ง

นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกสกู๊ต กล่าวว่า  ศักยภาพของเส้นทางในเอเชียมีความหลากหลายและน่าสนใจ โดยเฉพาะเส้นทางในเอเชียตะวันออกที่มีปริมาณความต้องการนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยสูง เชื่อว่าหลังจากไทยปลดล็อกธงแดงจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) ได้ในเร็วๆ นี้ จะทำให้สามารถขยายเที่ยวบินในภูมิภาคเอเชียอย่างไร้ข้อจำกัดมากขึ้น  ยังไม่จำเป็นต้องเปิดเส้นทางบินไกลยุโรปเช่นเดียวกับสายการบินสกู๊ตแต่อย่างใด

โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตที่อินเดีย และเพิ่มจุดหมายในประเทศเดิมที่มีอยู่แล้ว รวมถึงขยายเส้นทางบินในประเทศใหม่ๆ และไม่มีคู่แข่ง

สำหรับสถานการณ์ตลาดช่วงไตรมาส 3 ซึ่งยังอยู่ในช่วงโลว์ซีซัน เดือน มิ.ย.นี้ อัตราบรรทุกเฉลี่ยอ่อนตัวเล็กน้อยอยู่ที่ 80%  เมื่อเข้าสู่เดือน ก.ค.-ส.ค. คาดว่าผู้โดยสารจะขยับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 80% ปลายๆ ได้

อย่างไรก็ดี จากการที่สายการบินสกู๊ต ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือข่ายประกาศเปิดเส้นทาง สิงคโปร์-เอเธนส์ (กรีซ) เป็นจุดหมายแรกในยุโรป และเป็นเส้นทางระยะไกลครั้งแรกของสกู๊ตด้วยนั้น ในส่วนของนกสกู๊ต ยังไม่มีแผนการเปิดเส้นทางไปยุโรปภายในปีนี้หรือปีถัดไป เนื่องจาก 2 ปัจจัยหลัก เรื่องแรก  สมรรถนะของเครื่องบินที่ใช้อยู่ไม่เอื้อต่อการบริหารต้นทุนของเส้นทางระยะไกลให้คุ้มค่า โดยนกสกู๊ตใช้เครื่องโบอิ้ง 777 แต่สกู๊ตใช้เครื่องโบอิ้ง 787 ดรีมไลน์เนอร์ ที่มีนวัตกรรมใหม่ด้านความประหยัดทำให้สามารถบริหารจัดการได้ดีกว่า

ทางด้านนายลี ลิก ซิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินสกู๊ต กล่าวว่า การเปิดเที่ยวบินจากสิงคโปร์ไปเอเธนส์ครั้งนี้ เป็นการบินระยะไกลเส้นทางแรกของสกู๊ต และเป็นสายการบินเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่บินตรงไปยังประเทศกรีซ โดยใช้เวลาบิน 11.5 ชั่วโมง มีความถี่ไป-กลับ 4 เที่ยว/สัปดาห์ (ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี เสาร์ และอาทิตย์)   ในปี 2561 มีแผนเปิด 5 เส้นทางใหม่ประกอบด้วย เที่ยวบินระยะไกล 1 เส้นทาง และระยะใกล้ถึงระยะกลางอีก 4 เส้นทาง

ทั้งนี้ สายการบินสกู๊ตได้ดำเนินการขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. เป็นต้นไปสกู๊ตและไทเกอร์แอร์  ดำเนินการเที่ยวบินของทั้งสองสายการบินภายใต้แบรนด์สกู๊ตซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการอนุมัติระเบียบการรวมกลุ่มสายการบิน โดยใช้ใบอนุญาตทั่วไป (Air Operator Certificate) ร่วมกัน หลังจากเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีการควบรวมกิจการของสกู๊ตและไทเกอร์แอร์ภายใต้ บัดเจ็ต เอวิเอชั่น โฮลดิงส์  บริษัทย่อยในเครือสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์กรุ๊ป ทำให้ปัจจุบัน สกู๊ต และไทเกอร์แอร์ มีเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทาง 60 แห่ง ใน 17 ประเทศ

ก่อนหน้านี้ นายโทนี เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแอร์เอเชีย กล่าวถึงกลยุทธ์ของสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ว่า จะมุ่งขยายเส้นทางบินในระยะไม่เกิน 8-9 ชั่วโมง เน้นตลาด “เอเชีย” เท่านั้น โดยขยายในลักษณะบุกเบิก เช่น การเปิดเส้นทางบินจากญี่ปุ่นไปฮาวาย ใช้เวลา 8 ชั่วโมง 

“เส้นทางระยะยาวมาก (Ultra Long Haul) ยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญในขณะนี้ การแข่งขันเส้นทางไกลอย่างยุโรปปล่อยให้สายการบินเต็มรูปแบบ (ฟูลเซอร์วิส) แข่งขันกันเองไปก่อน เพราะเวลานี้มีปัญหาสงครามราคาเกิดขึ้นแล้วในเส้นทางลอนดอน”

ล่าสุด แอร์เอเชีย ได้รับการจัดอันดับจากสกายแทรกซ์ เก็บคะแนนโหวตจากนักเดินทาง 19.9 ล้านคนทั่วโลกให้เป็นสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดของโลก ติดต่อกันปีที่ 9 (2552-2560) คู่กับรางวัลสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในเอเชีย  ขณะที่สายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ ได้รับรางวัลชั้นโดยสารพรีเมียมและที่นั่งชั้นพรีเมี่ยมดีที่สุด ในกลุ่มบินประหยัด ติดต่อกันปีที่ 5

ภายใน 15 ปีจากนี้ แอร์เอเชีย จะใช้แนวคิด One AirAsia แห่งอาเซียนอย่างแท้จริง พร้อมก้าวสู่สายการบินแห่งโลกดิจิทัล ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ขับเคลื่อนองค์กรมากขึ้น