คลื่นความร้อนปกคลุมสหรัฐ-สังเวย 4 ศพ

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐ หรือเอ็นดับเบิลยูเอส ออกประกาศเตือนภัยสภาพอากาศร้อนจัดฉบับใหม่ ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงการออกกลางแจ้งหากไม่มีความจำเป็น และขอให้ประชาชนดื่มน้ำเป็นระยะเพื่อป้องกันการเกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งจะส่งผลต่อกระบวนการทำงานของร่างกายในการระบายความร้อน ทำให้อุณหภูมิของร่างกายเพิ่มสูงขึ้น และเกิดอาการลมแดดที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต

สภาพอากาศที่ร้อนจัดที่ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัตการณ์ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะในฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน ในจำนวนนี้เป็นชายและหญิงสูงวัยอายุ 72 ปี และ 87 ปี ที่เมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย

ส่วนอุณหภูมิที่เมืองฟีนิกซ์ ในรัฐแอริโซนา พุ่งสูงถึง 47.2 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติ 46.1 องศาเซลเซียส เมื่อปี 2551 อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิในเมืองฟีนิกซ์เคยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 50 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2533

ขณะเดียวกัน สภาพอากาศที่ร้อนและแห้งจัดยังส่งผลกระทบต่อการให้บริการของสนามบินหลายแห่งในภูมิภาคด้วย เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของเครื่องยนต์ และอุณหภูมิบนพื้นผิวรันเวย์ที่อาจสูงถึง 60 องศาเซลเซียส อาจทำให้เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเสียชีวิตได้