สลดยายวัย 65 ป่วยโรคไต เบาหวาน ความดัน ไม่ได้แต่งงานอยู่ลำพัง สั่งเสียเพื่อนบ้านไว้หากไม่เห็นให้แวะดูที่บ้าน ก่อนหายไป 3 วัน ผงะพบเป็นศพขึ้นอืดคาบ้าน
(23 มิ.ย.60) ร.ต.ท.วีระพงษ์ อินผักแว่น ร้อยเวรฯ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีคนนอนเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 47 ม.5 บ.หนองโพรง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรฯ หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถาน และหน่วยกู้ชีพเทศบาลอิสาณ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านยืนมุงดูอยู่บริเวณหน้าบ้านจำนวนมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เดินเข้าไปภายในบริเวณบ้านก็ได้กลิ่นเหม็นคละคลุ้งออกมาจากห้องซึ่งมีขนาดกว้างประมาณ 3 เมตร แต่ประตูถูกล็อกลูกบิดด้านใน จึงได้งัดบานเกล็ดออกแล้วเปิดประตูถึงกับผงะ พบศพ น.ส.บัวเพียน คะเรรัมย์ อายุ 65 ปี นอนเสียชีวิตในสภาพขึ้นอืดมีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ตรวจสอบภายในห้องไม่พบร่องรอยรื้อค้น และไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
จากการตรวจสภาพศพเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 2 – 3 วัน จากการสอบถามนางเปลี่ยน คะเรรัมย์ อายุ 62 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต บอกว่า ผู้ตายไม่ได้แต่งงานไม่ครอบครัวอาศัยลำพัง จึงทำห้องเล็กๆ อยู่ข้างบ้านพี่สาวคนโต แต่หลังจากพี่สาวไปเลี้ยงหลานที่กรุงเทพฯ จึงต้องอยู่ลำพังคนเดียว ทั้งนี้ผู้ตายยังป่วยอีกหลายโรคทั้งโรงไต ความดัน เบาหวาน เมื่อก่อนเคยทำงานเป็นแม่บ้านอยู่กรุงเทพฯ แต่หลังจากสุขภาพไม่ค่อยดีก็กลับมาอยู่บ้านปัจจุบันก็ใช้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
นางมาลี ชำนาญเลื่อย อายุ 53 ปี เพื่อนบ้าน บอกว่า ปกติจะเป็นยายบัวเพียน ออกมาใส่บาตร และเดินออกกำลังกายเป็นประจำ พอถึงวันพระก็จะไปทำบุญที่วัด ด้วยความที่อาศัยอยู่ลำพังก็จะชอบเดินมาเล่นที่บ้านของตนเอง บางครั้งก็วานให้ช่วยนวดแขน นวดขาบรรเทาอาการปวดเมื่อยให้ แต่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันยายเคยพูดลักษณะสั่งเสียกันตนเองไว้ว่า หากไม่เห็นยายเดินมาให้ช่วยแวะไปหาที่บ้านด้วย ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นการพูดสั่งเสียครั้งสุดท้าย จากนั้นก็เห็นจากหายไป 3 วันไม่ยายเดินมาหาที่บ้าน สอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงก็ไม่เห็นออกมาใส่บาตร จึงได้ตัดสินใจเดินไปดูที่บ้าน แต่พอเดินไปถึงหน้าบ้านก็ได้กลิ่นเหม็นรุนแรงออกมาห้องที่ยายบัวเพียน พอตะโกนเรียกก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและพบยายกลายเป็นศพนอนขึ้นอืดแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุการตายน่าจะเกิดจากอาการช็อคหน้ามืดจากโรคที่ป่วยอยู่ แต่ไม่มีใครเห็น จึงทำให้เสียชีวิตอยู่ในห้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ส่งศพตรวจพิสูจน์อีกครั้ง ก่อนจะมอบให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป