ศูนย์สมุนไพรวิทยาการสาธารณสุขสิรินธร ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย

ศูนย์สมุนไพรวิทยาการสาธารณสุขสิรินธร ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย

วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก นอกจากจะผลิตบัณฑิตทางการแพทย์แผนไทยแล้ว ยังมีศูนย์สมุนไพรไทยที่น่าสนใจ หลากหลายชนิดที่เป็นภูมิปัญญาไทยในการรักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะ 12 กลุ่มโรค

 จนชาวบ้านต่างมาเลือกซื้อไปรักษาโรคตามอาการ ผสมผสานกับยาแผนปัจจุบัน 

ที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก นอกจากจะผลิตบัณฑิตทางการแพทย์แผนไทย ไปสู่โรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศไทย ที่นี้ยังมีการคิดค้นและผลิตสมุนไพรไทย นานาชนิดมากมาย เพื่อให้แพทย์แผนไทยนำไปใช้ในการรักษาโรคควบคู่กับยาแพทย์แผนปัจจุบัน โดยมีสวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรค เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดสวนสมุนไพร เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ตลอดจนเป็นวัตถุดิบที่นำไปผลิตยารักษาโรค 

นายนาวิน เหมือนมี อาจารย์คลินิกแพทย์แผนไทย วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร พิษณุโลก กล่าวว่า ที่สวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรค เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แห่งนี้มีสมุนไพร จำนวน 316 ชนิด บางชนิดชาวบ้านทั่วไปอาจปลูกไว้ตามบ้านเรือน แต่อาจจะยังไม่ทราบถึงสรรพคุณในการรักษาโรค อาทิเช่น ต้นกระเพรา แก้ท้องอืด ขับผายลม ,ต้นปาริชาต ใบและเปลือก แก้เสมหะ ลมพิษ , ต้นลีลาวดี แก้รักษาโรคบาดทะยัก, อัญชัน บำรุงสายตา ส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย เป็นต้น ซึ่งหากใครได้ไปชมและศึกษาสวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรคเฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้จะได้ความรู้มากมายสมุนไพรนานาชนิดทั้งหมดนี้ ทางวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก ได้นำไปผลิตเป็นยาสมุนไพร โดยมีนิสิต นักศึกษา มาคอยเรียนรู้และวิจัยสรรพคุณด้านต่างๆ ควบคู่กันไป 

โดยเฉพาะต้นปาริชาติ ในสวนสมุนไพร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาดี ได้เสร็จพระราชดำเนินมาทรงปลูกไว้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2559 นายนาวิน ให้ข้อมูลว่า ต้นปาริชาติ เป็นต้นไม้ประจำปีเกิดของพระองค์ท่าน เป็นต้นไม้สมุนไพรไทย วิทยาลัยฯก็ได้ต้นปาริชาติมานานแล้ว ในการผลิตยาสมุนไพรเป็นยาแก้ลม แพทย์แผนใช้ใช้ต้นปาริชาติ ต้นมะรุม และต้นกุ่ม ในการนำมาทำยาแก้ลม หรือ ยาหอม 

นายนาวิน เปิดเผยต่อว่า การสอนแพทย์แผนไทยและผลิตยาสมุนไพรไทย ของวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธรนั้น จะใช้ตำรับหลวง ซึ่งรัชกาลที่ 5 พิมพ์ไว้ เรียกไว้ว่าแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ที่พัฒนามาจากตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ การสอน และผลิตยา จะยึดตามตำราแพทย์หลวง ใช้เครื่องบดยา มีพัฒนาให้ทันสมัยขึ้นมาบ้าง นำยาแผนโบรารณ ปรับมาใส่แคปซูล บรรจุกล่อง สำหรับการเรียนการสอนแพทย์แผนไทย ที่ได้ผลิตหมอแพทย์แผนไทยออกไป 17 รุ่นแล้ว มีแพทย์แผนไทยกระจายไปอยู่ทั่วประเทศทุกจังหวัดร่วม 1,000 คน ต่างใช้ยาแพทย์แผนไทยไปตามที่เรียนมา คือยาตำรับหลวง ใช้สมุนไพรในพื้นที่ที่หาได้ ผลิตมารักษาคนไข้ตามแบบแพทย์แผนไทย 

"การผลิตยาสมุนไพรที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จะเน้นการผลิตสมุนไพรของไทย ที่เน้นรูปแบบง่าย ๆ ไม่ใช้สารสกัดอะไร เพราะประเทศชาติเราไม่ต้องพึ่งพิงใครนัก เจตนาของเราต้องการให้คนไทยทำได้เองในชุมชน หากใช้เทคโนโลยีสูงเกินไป ชาวบ้านก็ทำไม่ได้ เราต้องผลิตหมอแบบประเทศจีนสมัยก่อน คือ หมอเท้าเปล่า ให้ความรู้ไป และไปเก็บสมุนไพรในชุมชนได้ เป็นหลักการของเราเลย ผลิตแพทย์แผนที่ที่ใช้ได้กับประเทศเรา" นายนาวิน กล่าว 

น.ส.กนกพร สุทธมา นศ.แพทย์แผนไทย ชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร พิษณุโลก กล่าวว่า ตนเองสนใจในเรื่องสมุนไพรไทยๆ มานาน เนื่องจากมีสรรพคุณทางยามากมาย ชาวบ้านทั่วไปสามารถนำไปใช้ได้ โดยหากใช้ในการรักษาโรคถูกที่ ถูกทาง ยาสมุนไพรเหล่านี้ก็มีประโยชน์ไม่น้อย ซึ่งหากตนเรียนสำเร็จก็จะกลับไปปลูกและใช้สมุนไพรในหมู่บ้านของตนเอง 

ด้านนางน้อย ย่นไพร อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 650 หมู่ 13 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า สามีของตนเองเป็นอัมพฤกต์ ตนเองทำการรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบัน ผสมกับมาซื้อยาสมุนไพรแผนโบราณ ที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร พิษณุโลก เพื่อนำไปให้สามีกินควบคู่กันไป ซึ่งก็มีอาการดีขึ้นสามารถลุกเดินได้บ้าง และที่สำคัญยาสมุนไพรแห่งนี้มีราคาถูกกว่าท้องตลาด 

สำหรับผู้ที่สนใจต้องการมาศึกษาการปลูกพืชสมุนไพรไทย หรือเลือกซื้อสมุนไพรไทย ที่สวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรคเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แห่งนี้ สามารถเข้าชมกันได้ที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิริธร อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เป็นประจำทุกวันเวลาราชการ 055-311025