ห้ามขุดรื้อพระปรางค์เก่าแก่ ศิลปะสุโขทัยผสมขอมอายุนับพันปี

ห้ามขุดรื้อพระปรางค์เก่าแก่ ศิลปะสุโขทัยผสมขอมอายุนับพันปี

ผู้นำชุมชนพิชัย จ.อุตรดิตถ์ กันพื้นที่พระปรางค์เก่าแก่ ศิลปะสุโขทัยผสมขอม อายุเกือบ 1,000 ปี ถูกปล่อยทิ้งร้าง ห้ามขุดรื้อของมีค่า พร้อมประสานหน่วยงานเข้าบูรณะ

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน นายเจษฎา ลิ้มศรีตระกูล นายอำเภอพิชัย จ.อุตรดิตถ์ พร้อมผู้นำท้องถิ่น ลงพื้นที่“พระปรางค์” ก่อสร้างโดยใช้ศิลาแลงและอิฐมอญ ยุคสุโขทัยตอนต้นผสมศิลปะขอม อายุประมาณเกือบ 1,000 ปี อยู่ในพื้นที่ หมู่ 2 บ้านหน้าพระธาตุ ต.ในเมือง อ.พิชัย ห่างจากถนนสายหลักเข้าสู่อำเภอพิชัยเพียง 100 เมตร ถูกปล่อยทิ้งร้างให้ทรุดโทรมแตกหักพังลงไปตามกาลเวลา คงเหลือแต่เศษซากศิลาแลง และอิฐมอญกระจัดกระจายเต็มพื้นที่ ที่สำคัญพบร่องรอยการขุดเป็นหลุมขนาดใหญ่ ตลอดทั้ง 4 ทิศใต้ฐานกระปรางค์ เพื่อขุดหาของมีค่า

นายเจษฎา กล่าวว่า หลังรับแจ้งพบประปรางค์เก่าแก่ อายุกว่า 1000 ปีถูกทิ้งร้าง จึงให้ จนท.ศึกษาข้อมูล พร้อมนำแผนที่แนวเขตที่ราชพัสดุเข้าตรวจสอบ ซึ่งพระปรางค์ ดังกล่าวอยู่ในส่วนหนึ่งของแนวเขตกำแพงเมือง-คูเมืองเก่าของเมืองพิชัยเนื้อที่กว่า 200 ไร่ และได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ตั้งแต่ปี 2478 ลักษณะเป็นศาสนสถานใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนา ตอนนี้ให้ผู้นำท้องถิ่น ชี้แจ้งประชาชนอย่าบุกรุก เนื่องจากเป็นเขตอนุรักษ์ และกันพื้นที่ห้ามเข้าขุนหาของมีค่า หลังพบว่า พระปรางค์เกิดการทรุดตัว นอกจากตามกาลเวลาแล้ว ส่วนหนึ่งอาจมาจากการพยายามขุด เจาะ ของชาวบ้าน ที่เชื่อว่าใต้ฐานพระปรางค์น่าจะมีของมีค่า แก้วแหวนเงินทอง ฝังเอาไว้ใต้ฐานพระปรางค์ จนทำให้เกิดหลุมและโพรงขนาดใหญ่ทะลุหากันได้ทั้ง 4 ทิศ และเชื่อว่าปัจจุบันยังมีการลักลอบขุดอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ พระปรางค์ถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ ถูกปล่อยทิ้งร้างให้ทรุดโทรมแตกหัก ตัวพระปรางค์อยู่ได้เพราะมีรากไม้ขนาดใหญ่เกี่ยวพันหรือรัดไว้ จึงไม่ให้พังทลายลงมา ได้เร่งประสานสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย ในการเข้ามาบูรณะซ่อมแซม นอกจากจำมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองเก่าสุโขทัย และเป็นแหล่งเรียนรู้ให้คนรุ่นใหม่เกิดความภาคภูมิใจ รัก หวงแหนโบราณสถานโบราณวัตถุ และบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง