โรดแมพเซ็นทรัล เดินหน้าปั้น 'สินค้าชุมชน'
ชูโนว์ฮาว-เครื่อข่าย ค้าปลีกในและต่างประเทศเครือเซ็นทรัล หนุนยกระดับสู่เอสเอ็มอี กรุยทางขยายตลาดส่งออกในอนาคต
ประเทศไทยมีความโดดเด่นของ “ภูมิปัญญาท้องถิ่นและสินค้าชุมชน" ซึ่งหากได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนอย่างมีประสิทธิภาพจะก้าวสู่ผู้ประกอบการรายย่อย (เอสเอ็มอี) เป็นหนึ่งกลไกร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ไม่ยาก ทั้งสามารถต่อยอด “กิจการขนาดเล็ก” สู่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ นับเป็นหนึ่งพันธกิจของทุนยักษ์ใหญ่ “เซ็นทรัล” วางยุทธศาสตร์ธุรกิจเติบโตคู่ขนาน มุ่งถ่ายทอด “โนว์ฮาว” และใช้ประโยชน์ของเครือข่ายค้าปลีกกลุ่มเซ็นทรัลทั้งในและต่างประเทศ “ต่อยอดสินค้าชุมชน” ทำตลาดอย่างมีศักยภาพผ่านโครงการสินค้าชุมชนของเรา
พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลมุ่งสร้าง “สินค้าชุมชนเข้มแข็ง” สามารถยืนได้ด้วยตนเองและเติบโตต่อเนื่อง จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขนาดเล็ก สู่ สหกรณ์ ยกระดับสู่ผู้ประกอบการขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และมีความพร้อมเพื่อการส่งออกในที่สุด
โครงการสินค้าชุมชนของเรา อยู่ภายใต้โครงการด้าน CSV (Creating Shared Value) เน้นสร้างงาน อาชีพ คุณภาพชีวิตและความสัมพันธ์อันดีในชุมชนนั้นๆ มีกระบวนการดำเนินงานทิศทางเดียวกับ “โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิภาคของประชารัฐ” 8 ด้านหลัก ได้แก่ “เรียนรู้สินค้าของชุมชน” ด้วยการส่งบุคลากรลงพื้นที่เพื่อเรียนรู้จุดเด่น จุดด้อย นำมาวางแผนพัฒนาหรือต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ต้องการของลูกค้าในตลาดมากขึ้นกว่าเดิม “พัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้า” ให้เหมาะกับยุคสมัย ลดต้นทุน เพิ่มกำไร ขยายขีดความสามารถในการแข่งขัน "เพิ่มทักษะและความรู้" โดยเฉพาะด้านการค้าปลีกและทักษะทางอาชีพ อาทิ วางแผนเพาะปลูกพืชผักให้สอดคล้องความต้องการของตลาดเพื่อลดปัญหาสินค้าล้นตลาด “การเงินและการลงทุน” สนับสนุนทุนทรัพย์และงบประมาณด้านสิ่งปลูกสร้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลผลิต เช่น สร้างอาคารคัดบรรจุผัก โรงแปรรูปถนอมอาหาร
"สร้างเครือข่ายความร่วมมือ" เพื่อขยายเครือข่ายพันธมิตรภาครัฐและเอกชน "การขนส่งและระบบโลจิสติกส์" เลือกวิธีการขนส่งสินค้าที่ส่งผลดีที่สุดต่อต้นทุน คุณภาพสินค้า "ช่องทางจัดจำหน่าย" นำสินค้าชุมชนเข้ามาจัดจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดและธุรกิจในเครือเซ็นทรัล เช่น ท็อปส์ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ไทวัสดุ ร้านอาหารในเครือซีอาร์จี และโรงแรมเครือเซนทารา รวมถึงคู่ค้ารายอื่นๆ “การตลาดและสื่อสารการตลาด” เน้นสร้างความแตกต่างให้สินค้าชุมชนด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ทันสมัย และโปรโมทสินค้าให้ดึงดูดใจผู้บริโภค
“หัวใจ คือ การพัฒนาความคิดของผู้นำชุมชน ซึ่งจะเป็นแกนสำคัญผลักดันชุมชนเติบโตได้อย่างยั่งยืนด้วยตัวเอง”
ปี 2555-2559 โครงการสินค้าชุมชนของเรา ได้พัฒนา 123 ชุมชน 49 จังหวัด รวมสินค้าที่ได้รับการพัฒนา 1,508 รายการ สร้างรายได้คืนกลับชุมชน 637 ล้านบาท สิ้นปี 2560 หรือปีที่ 6 ของโครงการจะเพิ่มการพัฒนาเป็น 135 ชุมชน ใน 50 จังหวัด สินค้าหลัก ได้แก่ อาหารแปรรูป, ผักและผลไม้อินทรีย์, สุขภาพและความงาม, เครื่องใช้และของประดับตกแต่ง นอกจากนี้ ผลักดันสินค้าชุมชนให้ลงทะเบียนเป็นสินค้า GI รวม 38 สินค้า จาก 27 จังหวัด อาทิ สับปะรดศรีราชา, กล้วยไข่กำแพงเพชร, ข้าวแต๋นลำปาง, ข้าวสังข์หยดพัทลุง
การขับเคลื่อนโครงการสินค้าชุมชนของเรา ใน 3-5 ปีจากนี้ มุ่งเสาะหาสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นที่โดดเด่นและน่าสนใจเพิ่มขึ้น ทั้งสินค้าหายาก สินค้าเอกลักษณ์ท้องถิ่น การขยายสินค้า GI หรือของดีขึ้นชื่อจากแหล่งปลูกเฉพาะของแต่ละจังหวัด โรดโชว์อีเวนท์สินค้าชุมชนไปยังภูมิภาคต่างๆ ขยายช่องทางการขายไปยังคู่ค้ารายอื่นและผลักดันการส่งออกสินค้าชุมชน
"การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชน คือ แนวทางสำคัญสำหรับการทำตลาดในยุคนี้ จะต้องมีการแปรรูป ปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับยุคสมัย เช่น การดีไซน์ผ้าฝ้ายท้องถิ่นให้ตอบโจทย์วัยรุ่น หรือตามรสนิยมนักท่องเที่ยว เพื่อจำหน่ายในร้านของที่ระลึกโรงแรมเซนทารา หรือการนำผักกาดขาวที่รูปลักษณ์ไม่สวยงาม มาเพิ่มมูลค่าเป็นกิมจิ"
ล่าสุด เซ็นทรัลร่วมกับกระทรวงพาณิชย์จัดงานมหกรรมสินค้าชุมชนของเรา มีสินค้าจาก 55 ชุมชน ไฮไลท์กว่า 100 รายการ ทั้งกลุ่มอาหารสด-แห้ง กลุ่มผักผลไม้ กลุ่มเครื่องใช้-ของประดับ อาทิ ทุเรียนภูเขาไฟ ศรีสะเกษ เห็ดตีนตุ๊กแก สุราษฎ์ธานี กุ้งแก้ว พัทลุง ข้าวโพดเทียน เพชรบูรณ์ ข้าวแต๋นน้ำแตงโม ลำปาง กระยาสารทข้าวตอกสูตรโบราณ กำแพงเพชร ใบมันปู-ยอดอ่อนมะม่วงหิมพานต์ นครศรีธรรมราช หัวไชเท้าสีชมพู เพชรบูรณ์ มะม่วงจักรพรรดิ เชียงใหม่ งานแรก วันที่ 22-27 มิ.ย. ที่เซ็นทรัลเวิลด์ คาดมีผู้ชมงานกว่า 1 แสนคน สร้างยอดขายเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนมียอดขาย 4.9 ล้านบาท วันที่ 9-14 ส.ค. เซ็นทรัล พลาซา แจ้งวัฒนะ วันที่ 24-30 ส.ค. เซ็นทรัล พลาซา บางนา วันที่ 13-17 ก.ย. เซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น รวม 4 งาน สร้างรายได้ให้ชุมชนไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท