เตรียมนำตัว 'อดีตเภสัชโหด' ทำแผนที่เชียงราย

เตรียมนำตัว 'อดีตเภสัชโหด' ทำแผนที่เชียงราย

"อดีตเภสัช" สารภาพผิดก่อเหตุฆ่าพ่อตาแม่ยาย ตำรวจเตรียมคุมตัวกลับ จ.เชียงรายทำแผนประกอบคำรับสารภาพพร้อมฝากขังศาล คัดค้านการประกันตัว

นายกฤษณะชัย จันทราศรี และนางสาวยุพิน ปานลอยวงค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ถูกตำรวจนครบาลดอนเมือง และตำรวจภูธรบางละมุง จ.ชลบุรี จับกุมตัวได้ หลังร่วมกันก่อเหตุฆ่านายจำลอง และนางบัว บุญทองทา เสียชีวิตในบ้านพัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2548

โดยนายกฤษณะชัย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยอ้างว่า ในวันเกิดเหตุไม่ได้ตั้งจะลงมือฆ่าผู้เสียชีวิต แต่ด้วยปัญหาที่สะสมกันมานานกับ นางสาวรัชฎาพร บุญทาทอง (อดีตภรรยา) จึงชักชวน นางสาวยุพิน (ลูกจ้างนายกฤษณะชัย) นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดปากเสียงและใช้อาวุธมีดที่นำติดตัวไป ลงมือแทงจนเสียชีวิต โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป จนกระทั่งปี 2554 ได้ย้ายมาอยู่ในพื้นที่ สน.ดอนเมือง และประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ขายอาหารตามสั่ง และเปิดร้านขายของชำใช้ชีวิตกับภรรยาใหม่ เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป

พร้อมระบุว่า หลังก่อเหตุ 2 ปี ตนเองก็สำนึกผิดมาโดยตลอด และคิดว่าครอบครัวผู้เสียหายจะให้อภัยแล้ว แต่พอมีข่าวออกมาทราบว่า ครอบครัวผู้เสียหายอยู่อย่างทุกทรมานมาตลอด 13 ปี จึงรู้สึกสงสาร และอยากให้ครอบครัวผู้เสียหายอภัย และอโหสิกรรมให้ ซึ่งการอโหสิกรรมก็ไม่ได้หวังว่า ตนเองจะพ้นผิด แต่การให้อภัยคือสิ่งที่จะทำให้พ้นทุกข์ และเขาจะมีชีวิตที่มีความสุขตลอดไป ส่วนนางยุพิน เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า อยู่ในที่เกิดเหตุจริง

ด้าน พ.ต.อ.วิรัช สุมนาพันธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ระบุว่า ตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา ตำรวจได้พยายามติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาโดยตลอด แต่ที่ไม่สามารถจับกุมตัวได้ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีการเคลื่อนไหวทางทะเบียนราษฎร์ ตั้งแต่ปี 2547 และย้ายถิ่นฐานหลบหนี รวมถึงการตรวจสอบทางโทรศัพท์มือถือ ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากผู้ต้องหาใช้โทรศัพท์สาธารณะในการข่มขู่พยาน แต่คดีนี้ตำรวจได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการไปตั้งแต่ปี 2548 แล้ว และหลังจับกุมตัวได้ ผู้ต้องหาทั้งสองก็ให้การรับสารภาพ จึงเตรียมคุมตัวกลับไปดำเนินคดีที่จังหวัดเชียงรายในวันที่ 23 มิ.ย. รวมถึงชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และคุมตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงราย พร้อมคัดค้านการประกันตัว

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่ามีผู้มีอิทธิพลเข้ามาให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา จนไม่สามารถจับกุมตัวได้นั้น พ.ต.อ.วิรัช ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เชื่อว่าจะมีผู้ให้การช่วยเหลือ เนื่องจากตนเองทำงานเป็นข้าราชการตำรวจในพื้นที่มานานกว่า 33 ปี แต่หากตรวจสอบพบว่า ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำการเช่นนั้นจริง ก็จะดำเนินการทั้งทางวินัย และอาญาโดยไม่ละเว้น