สถาบันประกาศนำยางพารากลับ หากราคาประมูลไม่เป็นธรรม

สถาบันประกาศนำยางพารากลับ หากราคาประมูลไม่เป็นธรรม

สถาบันเกษตรทั่วภาคใต้ ประกาศจะนำยางกลับจากตลาดกลางทุกวัน หากราคาประมูลของบริษัทยางไม่เป็นธรรม ไม่เห็นด้วยกยท.เข้าไปร่วมประมูลแข่ง กับบริษัทเพื่อดึงราคาให้สูงขึ้น แต่กลับซ้ำเติมราคาตกมากขึ้น เหตุเอกชนฮั้วกดราคาเสนอซื้อ

(22 มิถุนายน 2560) สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางในจังหวัดตรัง ทยอยขึ้นป้ายบริเวณหน้าที่ทำการสหกรณ์กองทุนสวนยางทั้ง 36 แห่งในจังหวัดตรัง และตามแยก ตามจุดสำคัญต่างๆ ทั้งจังหวัด เช่นเดียวกับหน้าที่ทำการสหกรณ์การเกษตรกันตัง จำกัด ที่ยางพาราต้นแรกของประเทศไทย เขตเทศบาลเมืองกันตัง เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ประกาศใช้มาตรา 44 ในการประกาศใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐเป็นวาระแห่งชาติ และทำถนนผสมยางพาราอย่างเร่งด่วน หลังจากราคายางกลับมาลดต่ำลงอย่างรุนแรง ติดต่อกันทุกวันๆ ละประมาณ 1 บาทเศษ – เกือบ 6 บาท ทำให้ขณะนี้ชาวสวนยางเดือดร้อนมากยิ่งกว่าก่อน ที่จะออกมาเคลื่อนไหวยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล และมีแนวโน้มลดต่ำลงไปทุกวัน

โดยเฉพาะสถานการณ์การซื้อขายยางในตลาดกลางยางพาราภาคใต้ จำนวน 3 ตลาด ที่พบว่าบริษัทเอกชนร่วมมือกันประมูลราคาซื้อขายที่ต่ำลงอย่างผิดปกติทุกวัน โดยเฉพาะเมื่อการยางแห่งประเทศไทย พาตัวเองเข้าไปร่วมประมูลแข่งในตลาดใด เพราะมองว่าอาจทำให้ราคาดีขึ้น แต่กลับยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ เพราะแต่ละบริษัท จะยิ่งกดราคาเสนอประมูลให้ยิ่งต่ำลงไปอีก เพราะหวังจะได้รับซื้อยางในราคาที่ถูกลง เพราะเมื่อบริษัทแพ้การประมูลต่อ กยท. บริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ก็จะไปซื้อยางในตลาดกลางที่เหลืออีก 2 แห่ง เพราะราคาจะถูกกว่าราคาตลาดกลางที่ กยท.ประมูลได้ โดยเฉพาะตลาดกลางหาดใหญ่ที่ปกติจะยึดเป็นราคาซื้อขายของแต่ละวัน สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งทำให้ชาวสวนยางได้รับความเดือดร้อนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะราคาจะลดต่ำลงทุกวัน โดยในวันนี้ ราคาน้ำยางสดเหลือประมาณกิโลกรัมละ 41 – 42 บาท ยางแผ่นรมควันเหลือกิโลกรัมละ 52 บาท

 นายเลี่ยง ศักดา ผู้จัดการสหกรณ์กองทุนสวนยางวังวน อ.กันตัง จ.ตรัง กล่าวว่า นับจากนี้ไปสถาบันเกษตรกรทุกแห่งในภาคใต้ หลังจากนำยางไปชั่งน้ำหนักรอการประมูลที่ตลาดกลางในทุกวัน โดยเฉพาะตลาดกลางหาดใหญ่ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ ปกติพอนำยางไปเสนอและชั่งน้ำหนักที่ตลาดกลางแล้วเสร็จก็จะเดินทางกลับ แต่นับจากนี้จะรอจนกว่าจะได้ราคาซื้อขาย ซี่งหากบริษัทเสนอราคาที่ต่ำมาก ทุกสถาบันก็จะขนยางของตัวเองกลับทันที จะไม่ขายในราคาที่ไม่พอใจ และไม่เป็นธรรม เพราะนับจากราคายางพาราตกต่ำต่อเนื่องมาเกือบ 2 เดือน วิสาหกิจ และสถาบันยาง ที่รวบรวมยางมาผลิตเพื่อจำหน่าย ต่างประสบภาวะขาดทุนแล้วแห่งละไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท และยิ่งสถาบันใดผลิตยางและส่งจำหน่ายในตลาดกลาง มาก จะยิ่งขาดทุนมากขึ้น ซึ่งต่อไปจะรวมตัวกันนำยางกลับทุกวัน หากราคาที่ชนะการประมูลให้ต่ำเกินไป พร้อมกับเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งประกาศใช้มาตรา 44 มาแก้ปัญหาราคายางให้เร็วที่สุด ด้วยการให้หน่วยงานภาครัฐใช้ยางในประเทศในทันที เชื่อว่าราคายางจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างแน่นอน