นักลงทุนไม่มั่นใจโอเปกฉุดราคาน้ำมันดิ่งกว่า2%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ ร่วงลง 98 เซนต์ หรือ 2.3% ปิดที่ราคา 42.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 1.20 ดอลลาร์ หรือ 2.61% ปิดตลาดที่ 44.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ หากนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ราคาน้ำมันได้ทรุดตัวลง 20% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกของทุกปีนับตั้งแต่ปี2540

นักลงทุนไม่มั่นใจต่อประสิทธิภาพในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก

ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของโอเปกและประเทศนอกกลุ่มอยู่ที่ระดับ 106% ในเดือนพ.ค. โดยโอเปกให้ความร่วมมือ 108% ขณะที่ประเทศนอกกลุ่มโอเปกให้ความร่วมมือ 100%

ด้านนายบิจาน ซานกาเนห์ รมว.น้ำมันอิหร่าน กล่าวว่า สมาชิกโอเปกกำลังพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น แต่จะรอจนกว่าจะมีความชัดเจนต่อผลการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในขณะนี้ซึ่งสาเหตุของการหารือในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากสหรัฐได้เพิ่มการผลิตน้ำมันในระดับที่สมาชิกโอเปกไม่ได้คาดคิดมาก่อน

เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 6 แท่น สู่ระดับ 747 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2015 และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 22 ติดต่อกัน

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) ออกรายงานคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 9.3 ล้านบาร์เรลในปัจจุบัน ส่งผลให้สหรัฐมีการผลิตน้ำมันใกล้เคียงกับซาอุดิอาระเบีย