ภัยศาสนา! แฉกลลวงชวนผู้ปฏิบัติธรรม ลงทุนหมื่นได้ล้าน

ภัยศาสนา! แฉกลลวงชวนผู้ปฏิบัติธรรม ลงทุนหมื่นได้ล้าน

เตือนภัย! แฉกลลวงชักชวนผู้ปฏิบัติธรรมเล่น "บิทคอยน์" ลงทุนหลักหมื่นได้ล้าน หวั่นถูกหลอกเป็นแชร์ลูกโซ่

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) - 21 มิ.ย.60 น.ส.เจริญภร อันประนิตย์ ตัวแทนผู้ปฏิบัติธรรมวัดป่ากล้วย จ.อุตรดิตถ์ เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีกลุ่มบุคคลชักชวนให้ร่วมลงทุนทางการเงินเกี่ยวกับบิทคอยน์ (bitcoin) ได้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากธนาคารหลายเท่าตัว โดยมีพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ เป็นผู้รับหนังสือ

น.ส.เจริญภร กล่าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มบุคคลเข้ามาในรูปของนักปฏิบัติธรรมและชักชวนผู้ปฏิบัติธรรมให้ร่วมลงทุนทางการเงินเกี่ยวกับบิทคอยน์ โดยลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บิทคอยน์ หรือ 38,000 บาท และจะได้รับเงินปันผลหลังจากลงทุนแล้ว 300 วัน ยิ่งผู้ลงทุนชวนสมาชิกมาฝากเงินมากเท่าไร จะยิ่งได้รับผลประโยชน์ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ

โดยผู้ชักชวนยังได้แอบอ้างพระสงฆ์ที่ผู้ปฏิบัติธรรมเคารพนับถือ และธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งว่า ให้การสนับสนุนการลงทุนฝากเงินบิทคอยน์ ทำให้เข้าใจว่าเป็นการลงทุนเกี่ยวกับสถาบันการเงินของรัฐ และได้ผลตอบแทนสูงกว่าธนาคารอื่นหลายเท่า เป็นเหตุให้เชื่อมั่นและคิดว่าเป็นการลงทุนฝากเงินที่ไม่มีความเสี่ยง แต่เมื่อสอบถามไปที่พระสงฆ์ที่ถูกอ้างชื่อ ก็ยืนยันว่าไม่ทราบเรื่อง

น.ส.เจริญภร กล่าวอีกว่า ตนก็ถูกชักชวนแต่ยังไม่ได้ร่วมลงทุน แต่มีผู้ปฏิบัติธรรมในจ.อุตรดิตถ์ ปทุมธานี และเชียงใหม่ที่ร่วมลงทุนแล้วประมาณ 700-800 คน เมื่อได้เงินปันผลคืนก็จะถูกชักชวนให้นำเงินมาลงทุนเพิ่ม โดยบางคนลงทุนฝากเงินหลักหมื่น แต่ได้ผลตอบแทนหลักล้านบาท ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับแชร์ลูกโซ่ จึงขอให้ดีเอสไอตรวจสอบว่าการลงทุนดังกล่าวเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า จากการตรวจสอบคำร้องเบื้องต้นเป็นเพียงการแจ้งเบาะแส ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนว่ารูปแบบการทำธุรกิจเป็นอย่างไร และดำเนินธุรกิจภายใต้กฎหมายอะไร และเข้าข่ายผิดกฎหมายใดๆบ้าง