จับโจรสาวใหญ่ลักทรัพย์ รพ.อุดรฯ-หมู่บ้านหรูของกลางเพียบ

เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 21 มิถุนายน ที่หน้า สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.เนติพงศ์ ธาตุทำเล รอง ผบก. พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก. พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรานี พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ต.อรรถพล ยี่เกาะ สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับนางศรีสุดา ประนมศรี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 14 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี และนายเทพประสิทธิ์ ดอกจันทร์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 9 ต.ศรีชมพู อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย โดยกล่าวหา“ร่วมกันลักทรัพย์”

พร้อมของกลาง พัดลมเพดานลงทะเบียนหมายเลขทรัพย์สิน รพ.ศูนย์อุดรธานี 3 ชุด ไมค์ห้องประชุม 1 ตัว เครื่องฉายแผ่นใส 2 เครื่อง เครื่องปริ๊น 5 เครื่อง กล่องสัญญาณอินเตอร์เน็ต 1 กล่อง ขาไมโครโฟน 1 ขา เครื่องวัดชีพจร 2 เครื่อง โทรศัพท์ตั้งโต๊ะ 1 เครื่อง กล้องวีดีโอโซนี่ 1 ตัว โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง เครื่องบริหารหน้าท้อง 1 เครื่อง ทีวีสีจอแบน 2 เครื่อง เครื่องเล่นดีวีดี 1 เครื่อง เมนบอร์ด 1 ชิ้น มือถือ 5 เครื่อง คีย์บอร์ด 2 ตัว เพาว์เวอร์แบงก์ 8 เครื่อง นาฬิกาข้อมือ 2 เรือน ราวด์เตอร์ 7 กล่อง กล่องสัญญาณไมค์ไร้สาย 3 เครื่อง กล่องรับสัญญาณดาวเทียม 7 กล่อง ลำโพง 1 ชุด กล้องติดหน้ารถ 1 ตัว กระเป๋า 7 ใบ รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีราโน่ สีเขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฮอนด้า เวฟ สีแดงดำ จักรยาน 1 คัน พระเครื่องจำนวนมาก โดยจับกุมได้ที่บ้านเช่า หมู่บ้านเลื่อมโพธิ์ ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี

พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม เกิดเหตุงัดบ้านลักทรัพย์ที่บ้านเลขที่ 516/119 หมู่บ้านหรรษา ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง มี นางสรัญญา พันทฤทธิ์ อายุ 39 ปี เจ้าของบ้านนำตรวจที่เกิดเหตุ พบประตูหลังบ้านและหน้าต่างบานเลื่อนด้านข้างถูกงัดออก 3 บาน ทีวีสี 32 นิ้ว พร้อมรีโมท พระเครื่องจำนวนมากบนหิ้งพระ และรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีราโน่ สีเขียว สภาพใหม่ยังไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งคาดว่าจะเป็นคนร้ายที่ รปภ.หมู่บ้าน พบเห็นและไล่จับ แต่คนร้ายถือมีดแหลมวิ่งหลบหนีเข้ามาหลบซ่อนตัวในบ้าน และลักทรัพย์สินหลบหนีไป

หลังจากนั้น พ.ต.ต.อรรถพล ยี่เกาะ สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกสืบสวน จนพบรถจักรยานยนต์จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านเช่า จึงเข้าตรวจค้นพบนางศรีสุดา และ นายเทพประสิทธิ์ อยู่ภายในบ้าน นางศรีสุดา ซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งพนักงานบริการ รพ.ศูนย์อุดรธานี ได้ขัดขวางการตรวจค้น พร้อมกับด่าทอตำรวจ ซึ่งทางตำรวจก็แปลกใจ เพราะมีสิ่งของส่วนมากจะเป็นอุปกรณ์สำนักงาน โดยบางอย่างการลงทะเบียนหมายเลขทรัพย์สิน รพ.ศูนย์อุดรธานี เครื่องใช้ไฟฟ้า พระเครื่องจำนวนมาก อยู่ภายในบ้านจำนวนมากทั้งชั้นล่างและชั้นบน เมื่อตรวจสอบทีวีสี 32 นิ้ว และหมายเลขเครื่องรถจักรยานยนต์ พบว่าเป็นทรัพย์สินที่แจ้งหาย ควบคุมตัวใส่กุญแจมือสองผัวเมีย และทำให้นางศรีสุดา หยุดต่อว่าและด่าทอตำรวจ พร้อมกับเป็นลมล้มพับลงทันที ตำรวจจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางไปโรงพัก เพื่อสอบสวนขยายผล

จากการสอบสวนนายเทพประสิทธิ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นพ่อหม้ายลูกติด อายุ 2 ขวบ ไม่มีงานทำ พบรักและอยู่กินฉันท์สามีกับนางศรีสุดา ได้ประมาณ 6 เดือน โดยนางศรีสุดา ทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ส่วนตนจะอยู่บ้านเลี้ยงลูก ทุกวันตนจะเห็นนางศรีสุดา ถือถุงขยะสีดำของ รพ.ศูนย์อุดรธานีกลับมาบ้าน ภายในจะมีอุปกรณ์สำนักงานและเครื่องมือแพทย์กลับมาด้วย ก่อนจะนำไปขายบางส่วน ซึ่งนางศรีสุดาได้ชักชวนตนออกไปลักทรัพย์ด้วย หลังจากนั้นตนก็จะออกไปตระเวนงัดบ้าน ตามหมู่บ้านหรูตามลำพัง ได้ทรัพย์สินมาก็จะนำไปจำนำ ขาย หาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว ส่วนนางศรีสุดานอนหลับไม่ยอมให้ปากคำอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็น

หลังจับกุมแพทย์และพยาบาล รพ.ศูนย์อุดรธานี ได้เดินทางมาดูของกลาง และชี้ทรัพย์สินที่หาย ส่วนประวัตินางศรีสุดา เป็นแม่นายปฏิภาณ ชำนาญพรม อายุ 22 ปี ลูกจ้างชั่วคราว รพ.ศูนย์อุดรธานี ซึ่งเป็นโจรอาละวาดงัดบ้านในหมู่บ้านหรูเขต อ.เมืองอุดรธานี 33 หลัง จนได้ฉายา“โจรออฟเดอะเยียร์”ซึ่งถูกตำรวจจับกุมได้เมื่อปลายปี 2559 ทรัพย์สินที่ลักมาบางส่วน นายปฎิภาณ อาจจะจะนำมาฝากไว้ที่บ้านนางศรีสุดา ซึ่งตำรวจไม่ได้เข้าตรวจค้น แต่มาครั้งนี้นางศรีสุดาได้ชักชวนนายเทพประสิทธิ์ สามีใหม่ก่อเหตุงัดบ้านตามหมู่บ้านหรูคล้ายกับนายปฎิภาณ สันนิษฐานได้ว่านางศรีสุดา มีส่วนรู้เห็นหรือร่วมมือด้วย เมื่อลูกชายถูกจับจึงชักชวนสามีใหม่ตระเวนงัดบ้านและลักทรัพย์แทน กระทั้งมาถูกตำรวจจับกุมได้พร้อมอภิมหาของกลางดังกล่าว